การไม่ติดเชื้อเอดส์จากการมีเพศสัมพันธ์
ผู้ถาม อรพิน/กรุงเทพฯ
ดิฉันมีเพศสัมพันธ์กับสามีที่เป็นเอดส์ แต่หมอบอกว่าไม่ติดเชื้อเอดส์ เป็นไปได้หรือคะ
ดิฉันเป็นผู้หนึ่งที่กำลังเป็นทุกข์เหมือนภรรยาคนอื่นๆ ที่สามีเป็นโรคเอดส์ ก่อนอื่นดิฉันขอเล่าย่อๆว่า เมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมาดิฉันได้แต่งงาน เมื่อเวลาผ่านไป ๔ เดือน ดิฉันและสามีอยากมีบุตร จึงไปตรวจเลือด ผลเลือดออกมาจึงทราบว่าสามีเป็นโรคเอดส์ แต่ดิฉันไม่เป็น แพทย์แนะนำดิฉันให้อีก ๖ เดือนมาตรวจอีก ดิฉันและสามีไม่ได้ ไปพบแพทย์เลย เราทั้งคู่เสียใจ แต่ดิฉันก็ให้กำลังใจเขา ทุกวันนี้สามีกินวิตามินต่างๆ ว่านหางจรเข้ บีพอเลน บีพอลิก (ทำจากขี้ผึ้ง) เห็ดหลินจือ พักผ่อนเต็มที่ ออกกำลังกายทุกเช้า เราเชื่อว่าสักวันต้องมียารักษา และเมื่อปีที่แล้วดิฉันไปตรวจเลือดก็เป็นปกติ จึงมีคำถามขอเรียนถาม ดังนี้
๑. ทำไมดิฉันจึงไม่เป็นในเมื่อคืนแรกๆ ของการแต่งงาน ดิฉันมีเลือดออกโอกาสที่จะติดเชื้อเอดส์มีมาก
๒. สิ่งที่สามีกินอยู่ทุกวันนี้ ควรเพิ่มอะไรอีกหรือไม่
๓. ทุกวันนี้เราใส่ถุงยางอนามัย ๒ ชั้น ปลอดภัยหรือไม่ (เดือนละ ๑ ครั้ง)
๔. สามีคิดว่าเป็นมา ๖ ปีแล้ว จนถึงวันนี้อาการต่างๆก็มีแต่ไม่มาก
ผู้ตอบ นพ.ปราโมทย์ ธีรพงษ์
ขอตอบคำถามดังนี้
๑. การไม่ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์มีหลายปัจจัย เช่น มีภาวะภูมิคุ้มกันโรคต่อไวรัสเอดส์ดี จึงมีการตอบสนองต่อการรุกรานของไวรัสเอดส์ดี ไม่มีปัจจัยบางอย่างในร่างกายที่ไวรัสต้องใช้ในการติดเชื้อเข้าเซลล์ของร่างกาย เช่น CXCR4, CCR5 ทำให้ไวรัสไม่สามารถติดเชื้อเซลล์ได้ มีการป้องกันโดยใช้ถุงยางอนามัยหรือยาฆ่าเชื้อใส่ในช่องคลอด และปัจจัยหรือเหตุผลอื่นที่ยังไม่ทราบ นอกจากนี้การตรวจที่กระทำกันอย่างกว้างขวางทั่วไป เป็นการตรวจแอนติบอดี (ภูมิตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอมที่รุกรานของร่างกายชนิดหนึ่ง) ซึ่งร่างกายต้องใช้เวลาในการสร้าง ถ้าตรวจหลังจากสัมผัสโรค ๖ เดือน (หรือนานกว่านี้ขึ้นไป) แล้วไม่พบแอนติบอดี ก็แสดงว่าไม่ติดเชื้อเอดส์
๒. อาหารและยาที่กล่าวถึงนั้น บางชนิดที่รู้จักมีผลส่งเสริมสุขภาพ แต่บางชนิดยังต้องรอรายงานการค้นคว้าวิจัยต่อไป
๓. การใส่ถุงยางอนามัยที่ดีและ ไม่รั่ว ๑-๒ ชั้น สามารถป้องกันการรับเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ หรือเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อฝ่ายชายหลั่ง แล้วควรเอาออกจากช่องคลอดของฝ่ายหญิงด้วยความระมัดระวัง อย่าให้น้ำอสุจิหกหรือหลุดเข้าไปในช่องคลอด หรือเปื้อนที่บริเวณปากช่องคลอด หรือบริเวณอื่นของฝ่ายหญิง
๔. การที่ติดเชื้อมา ๖ ปีแล้ว ยังไม่มีอาการหรือมีแต่ไม่มาก แสดงว่าภูมิคุ้มกันของฝ่ายชายยังดี พยายามรักษาสุขภาพและให้กำลังใจซึ่งกันและกันให้ดี จะช่วยได้มาก ไม่ทรุดเร็ว ขอเป็นกำลังใจให้คุณทั้งสองและผู้ติดเชื้อไวรัสเอดส์ทุกคน