ดิฉันแต่งงานตอนอายุ ๓๕ ย่าง ๓๖ ปี แฟน อายุ ๔๒ ปี ดิฉันอยากจะมีลูก แต่ทั้งแฟน และดิฉันอายุมากแล้ว ไม่ทราบว่าโอกาสที่ลูกจะปัญญาอ่อนหรือพิการมีมากไหมคะ ดิฉันจำเป็นต้องดูแลตัวเองเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่
ผู้ถาม นงเยาว์/เพชรบุรี
ผู้ตอบ นพ.พันธ์ศักดิ์ ศุกระฤกษ์
ถาม ดิฉันเพิ่งแต่งงานตอนอายุ ๓๕ ย่าง ๓๖ ปี แฟนอายุ ๔๒ ปี ทั้งแฟนและดิฉันอยากจะมีลูก แต่ก็อดกังวลไม่ได้เพราะทั้งแฟนและดิฉันอายุมากแล้ว ไม่ทราบว่าโอกาสที่ลูกจะปัญญาอ่อนหรือพิการมีมากไหมคะ ดิฉันจำเป็นต้องดูแลตัวเองเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่
และน้องสาวฝากถามว่า กินยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลา ๕ ปีมาแล้ว จะมีผลต่อร่างกายหรือจะทำให้มีบุตรยากหรือไม่ถ้าเลือกเลิกกินยาคุมต่อไป
ตอบ ปัญหาเรื่องที่บุตรเกิดมาแล้ว จะปัญญาอ่อนหรือพิการนั้น ทางด้านฝ่ายชายไม่พบว่าอายุที่มากขึ้นจะเป็นสาเหตุที่ทำให้บุตรที่เกิดมา มีโอกาสปัญญาอ่อนหรือพิการ มากขึ้นแต่อย่างใด เพียงแต่เมื่อผู้ชายอายุมากขึ้น ปริมาณการสร้างฮอร์โมนเพศชายและจำนวน ตัวอสุจิที่สมบูรณ์แข็งแรงจะลดลง ทำให้โอกาสมีบุตรลดลงเท่านั้นเองเมื่อเทียบกับผู้ชายที่อายุน้อยกว่า เมื่อผู้ชายอายุย่างเข้า ๔๐ ปีขึ้นไป ระดับของฮอร์โมนเพศชายจะลดลง ปีละ ๑ เปอร์เซ็นต์ ทำให้อารมณ์เพศและการตอบสนองทางเพศลดลงไป การที่จะมีบุตรได้ง่ายและเร็วนั้นควรที่จะมีความสัมพันธ์ทางเพศประมาณ ๒-๓ ครั้งต่อสัปดาห์ หรือถ้าไม่สะดวกฝ่ายหญิงควรจะไปซื้อชุดทดสอบการตกไข่ด้วยตนเองจากร้านขายยาทั่วไป และพยายามมีเพศสัมพันธ์ในวันที่มีการตกไข่ จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงขึ้น
ส่วนอายุของฝ่ายหญิงนั้นถ้ามากกว่า ๓๕ ปีขึ้นไป มีโอกาสที่จะได้ลูกปัญญาอ่อนหรือพิการได้ สูงกว่าหญิงอายุน้อย แต่อัตรายังไม่มากนักถ้าตั้งครรภ์เมื่ออายุน้อยกว่า ๔๐ ปี มีรายงานจากประเทศอังกฤษว่า การที่สตรีได้รับสารอาหารจำพวกโฟเลทในปริมาณวันละ ๔๐๐ ไมโครกรัม จะช่วยลดการเกิดโรคความพิการของระบบประสาท ได้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้ เมื่อมารดาอายุมากกว่า ๓๕ ปี ตั้งครรภ์ขึ้น แพทย์จะทำการตรวจน้ำคร่ำเพื่อหาความผิดปกติเกี่ยวกับปัญญาอ่อน และความผิดปกติทางกรรม-พันธุ์อื่นๆให้ทุกรายไป ดังนั้นจึงไม่ควรจะวิตกกังวลเกินกว่าเหตุ และ พยายามดูแลสุขภาพให้สมบูรณ์ แข็งแรง กินอาหารให้ครบทุกหมวดหมู่และพยายามกินผักและผลไม้สดมากๆ และถ้าไม่ตั้งครรภ์ภายใน ๖ เดือน ควรจะไปปรึกษาแพทย์เพื่อรับการดูแลรักษาให้มีบุตรจะได้ไม่ช้าไป
ในกรณีที่เกิดการตั้งครรภ์ขึ้นเองตามธรรมชาติ ควรจะรีบไปฝากครรภ์แต่เนิ่นๆ เพื่อที่แพทย์จะได้ทำการตรวจและดูแลรักษาเป็นพิเศษ
ปัญหาของน้องสาวนั้น การที่กินยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อนานเกิน ๕ ปีนั้น หลังจากหยุดยาแล้ว รังไข่อาจจะยังไม่กลับมาทำงานผลิตไข่ตามปกติ เนื่องจากหยุดทำงานไปนาน นอกจากนี้การกินยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อกันนานเช่นนี้อาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลงบ้าง เมื่อเกิดการปฏิสนธิจะไปฝังตัวในโพรงมดลูกได้ยากขึ้นอย่างไร ก็ตามถ้าเกิดกรณีดังกล่าว แพทย์สามารถที่จะรักษาให้มีบุตรได้ โดยการใช้ยากระตุ้นการตกไข่ และเสริมฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวเป็นปกติได้ เพราะฉะนั้นถ้าเกิดปัญหาดังกล่าว ก็สามารถที่จะไปปรึกษาแพทย์เพื่อให้มีบุตรได้ แต่กรณีนี้ไม่ได้เป็นทุกคน ส่วนใหญ่แล้วเมื่อหยุดยาคุมกำเนิดก็สามารถที่จะมีการตกไข่ได้ตามปกติ ในระยะเวลาไม่เกิน ๓-๖ เดือน