การเมืองเรื่องของชาวบ้าน
เผลอแผล็บเดียว เดือนนี้เรามีการเลือกตั้งทั่วประเทศอีกแล้ว มานที่ติดตามข่าวคราวของบ้านเมืองก็จะทราบว่าชาวบ้านเอือมนักการเมืองเต็มทีที่ต่อสู้แย่งกันเป็นใหญ่ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดความสุจริต กินเวลาช้านานกว่าคนไทยจะเข้าใจว่า ระบบการเมืองไม่ดีทำให้ได้นักการเมืองไม่ดีเข้ามามาก จำเป็นต้องมีการปฏิรูป(ระบบ)การเมือง ให้ระบบเอื้ออำนวยให้คนดีเข้ามาสู่การเมืองมากขึ้นและสร้างกลไกที่เป็นอิสระที่จะตรวจสอบ สอบสวนลงโทษผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง
จุดสำคัญที่สุดที่จะทำให้การเมืองดีขึ้นคือการเปลี่ยนวิธีคิดของคนไทย คนไทยถูกหลอกให้คิดว่าการเมืองเป็นเรื่องของคนชั้นสูงหรือนักการเมืองเท่านั้น ชาวบ้านไม่เกี่ยว ถ้าคนไทยยังยอมให้ถูกหลอกอย่างนี้ต่อไป การเมืองก็ยากที่จะดีขึ้น
การเปลี่ยนวิธีคิดข้อที่ 1 ก็คือ การเมืองเป็นเรื่องของชาวบ้านทุกคน
ไม่ว่าจะมีอาชีพอะไร นี่ไม่ได้แปลว่าต้องไปสมัครรับเลือกตั้งทุกคน แบบที่นักการเมืองบางคนที่ปัญญาอ่อนชอบท้าทาย ถ้าใครวิพากษ์วิจารณ์การเมืองก็ท้าทายว่า แน่จริงมาลงเลือกตั้งสิ เพราะการเมืองไม่ได้มีแต่การเลือกตั้งเท่านั้น
การเปลี่ยนวิธีคิดข้อที่ 2 ก็คือ การเมืองไม่ใช่การเลือกตั้งเท่านั้น
ชาวบ้านไม่ได้มีหน้าที่จะเกี่ยวข้องกับการเมืองเฉพาะเมื่อไปหย่อนบัตรเลือกตั้งเสร็จแล้วก็เสร็จกันเท่านั้น แต่การเมืองหมายถึง กิจการส่วนรวมทุกอย่าง การเมืองเกี่ยวกับทุกเรื่อง ปัญหาการจราจรแก้ไขไม่ได้ก็เพราะการเมืองไม่ดี แก้ปัญหาคนจนไม่ได้ก็เพราะการเมืองไม่ดี ความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินก็เพราะการเมืองไม่ดี ลูกของท่านต้องวิ่งหาที่เรียนเลือดตาแทบกระเด็นก็เพราะการเมืองไม่ดี ท่านเจ็บป่วยได้รับบริการไม่ดีก็เพราะการเมืองไม่ดี มีการฉ้อราษฎร์บังหลวงเต็มประเทศก็เพราะการเมืองไม่ดี ฯลฯ
การเมืองเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องจึงเป็นเรื่องของชาวบ้านทุกคนที่จะต้องให้ความสนใจความเป็นไปของบ้านเมืองว่า มีปัญหาอะไร เกิดจากอะไร ควรจะแก้ไขอย่างไร ใครทำอะไรบ้าง ดีหรือไม่ดี ถ้าไม่ดีต้องเรียกร้องให้แก้ไข ถ้าดีก็สนับสนุน การเมืองเป็นชีวิตของทุกคน ถ้าทุกคนสนใจและมีบทบาททางการเมือง การเมืองจึงจะดีขึ้น และถ้าการเมืองดี สิ่งต่างๆในชีวิตของท่านรวมทั้งสุขภาพด้วยก็จะดีขึ้น
จึงกล่าวว่าการเมืองเป็นเรื่องของชาวบ้าน ไม่ใช่ของนักการเมืองเท่านั้น