พิษจากสารตะกั่ว นอกจากอัมพาตแล้ว ยังพบว่าทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาถ้าได้รับสารพิษขนาดสูง จะทำให้พิการได้ สารนี้มีอยู่รอบๆตัวเรานี่เอง
นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่เปิดเผยเรื่องพิษภัยตะกั่ว เห็นจะได้แก่ ดร.สุรพล สุดารา ท่านผู้อ่านคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว
คงยังจำกันได้ถึงครอบครัวหนึ่งที่แถวพระประแดง ที่ได้รับพิษภัยจากการเผาแบตเตอรี่เก่า
และคนทั้งครอบครัวได้รับพิษภัยจากตะกั่วเป็นอัมพาติพิการจากสารตะกั่วเป็นพิษ
พิษภัยตะกั่วไม่มีอยู่แค่นั้น ยังเป็นภัยมืดที่ยังคุกคามอยู่เพราะลามปามไปถึง ทารกในครรภ์ของมารดา
ทั้งนี้จากรายงานของคุณหมอเดวิด เบลลิงเก้อร์ จากรพ.เด็ก แห่งบอสตัน มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
ได้ติดตามเด็กกว่า 249 คน จากครอบครัวคนผิวขาว ชั้นกลาง และชั้นสูง ในเมืองและบริเวณรอบๆเมืองบอสตัน
เด็กเหล่านี้ตอนคลอด แพทย์ได้ตรวจระดับตะกั่วจากเลือดของสายสะดือ ดูระดับต่างๆ และติดตามการพัฒนาและความเจริญเติบโตของเด็กดู
ช่วงแรกนี้ ติดตามมาได้ 2 ปี ทดสอบดูความสามารถทางด้านร่างกายและจิตใจพบว่า เด็กคนไหนตอนอยู่ในท้อง หรือในครรภ์ของแม่ได้รับสารพิษตะกั่วระดับสูง จะมีความพิการมากกว่าเด็กที่มีระดับสารตะกั่วต่ำ
ถ้าวัดไอคิวดูจะพบว่ามีระดับต่ำกว่า ซึ่งทั้งนี้จะต้องทำการศึกษาต่อไป
แล้วสารตะกั่วมันมาจากไหน
จากแบตเตอรี่เก่า เอาไปเผาไฟควันพิษก็คือสารตะกั่ว นอกนั้นยังมีในสีทาบ้านต่างๆ น้ำมันรถยนต์ ฝุ่นบ้านเองก็มีอยู่มิใช่น้อย กระดาษหนังสือพิมพ์ โดยเฉพาะที่มีสี ยิ่งมีสารตะกั่วมาก
ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง จะได้ระวังระไวกันไว้บ้าง เพราะควันไอเสียรถยนต์ของเรามากเหลือเกิน ไม่รู้ว่าระดับตะกั่วในควันนั้นมีมากน้อยแค่ไหน มีผลต่อเด็กในครรภ์บ้านเราเพียงใด ได้ข่าวว่ากำลังคัดค้านทางด่วนคร่อมคลองประปากันอยู่
น่าจะลองตรวจสารตะกั่วในหญิงตั้งครรภ์ดูบ้าง คงจะดีไม่น้อย จะได้หาแนวทางป้องกันพิษจากสารตะกั่วกันไว้บ้าง
แม้แต่เพียงเล็กน้อย ตะกั่วก็มีพิษต่อเด็กอ่อนในครรภ์ได้ โปรดระวัง!!!