เอดส์กับการบริจาคเลือด
เมื่อเร็วๆนี้ ผู้เขียนแวะไปบริจาคเลือดที่แผนกคลังเลือดของโรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่ง ก็ได้ถือโอกาสพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ที่รับบริจาคเลือด
“6 เดือนหลังนี้ พบคนที่บริจาคเลือดมีเอชไอวีโพสิทีฟมากขึ้นกว่าระยะก่อนมาก” เจ้าหน้าที่ที่นั่นเล่าให้ฟัง
เลือดทุกขวดที่รับบริจาคจะตรวจหาเชื้อเอดส์ ซึ่งภาษาอังกฤษเรียกว่า “เอชไอวี” (HIV ย่อมาจาก human immunodeficiency virus)
หากพบว่ามีเชื้อก็เรียกว่า “เอชไอวีโพสิทีฟ” แปลว่า มีผลเป็นบวก ซึ่งหมายถึง ตรวจพบเชื้อโพสิทีฟ (positive) แปลว่า บวก
“บางคนเคยบริจาคเลือดอยู่เป็นประจำทุก 3 เดือน มีอยู่รายหนึ่งเคยบริจาคมา 42 ครั้ง ตรวจไม่พบเชื้อเอดส์เลย แต่พอบริจาคครั้งที่ 43 กลับมาตรวจพบเอชไอวีโพสิทีฟ สอบถามดูก็พบว่าไปเที่ยวมาเพียง 1-2 ครั้งเท่านั้น”
เที่ยวเพียงครั้งเดียวก็อาจติดโรคเอดส์ได้ เป็นความจริงที่น่าผวา
โรคเอดส์มิได้ขีดวงอยู่ในหมู่คนที่เป็นเกย์ หรือติดยาเสพติดอีกต่อไปแล้ว มันกำลังคืบคลานเข้าสู่คนทั่วไปในสังคม ถ้าหากไม่ระมัดระวังในเรื่องเพศสัมพันธ์
“ในเวลานี้ มีคนมาบริจาคเลือดกันน้อยลง ทำให้โรงพยาบาลขาดแคลนเลือดที่จะต้องใช้กับคนไข้เป็นประจำ แม้แต่คนที่เคยบริจาคอยู่เป็นประจำก็หายหน้าไป เหตุผลอาจเป็นเพราะกลัวว่าเลือดที่บริจาคไปนั้นอาจถูกตรวจพบว่า มีเชื้อเอดส์ จึงหลีกเลี่ยงไม่บริจาคเสีย แต่ก็มีบางคนที่กลัวว่ามาบริจาคเลือด อาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนเลือดคนอื่นทำให้ติดเชื้อเอดส์” เจ้าหน้าที่คลังเลือดเล่าให้ฟังต่อ
ประการหลังนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมาก การบริจาคเลือดนั้นไม่ทำให้ติดเชื้อเอดส์อย่างแน่นอน เพราะเข็มและถุงใส่เลือดจะใช้เฉพาะแต่ละคน ไม่ปนเปกัน
เอดส์ กำลังทำให้โรงพยาบาลขาดแคลนเลือดที่จำเป็นต้องใช้กับคนไข้
ขอเชิญชวนให้พวกเรามาบริจาคเลือดกันเถอะครับ!