ตาแดงเป็นปื้นอาการของโรคไอกรน โรคตาแดง ตาฟกช้ำ
ลุงคำพาหลานชายอายุ 6 ปี ชื่อ หนูเขียว ไปหาหมอ
ลุงคำเล่าให้หมอฟังว่า
“ไอ้เขียวมันเป็นโรคอะไรก็ไม่รู้ ตอนกลางวันก็เห็นมันเล่นหัวได้เหมือนคนดีๆ แต่พอตกกลางคืน มันไอได้ไอดี ไอทีติดต่อกันนานจนตัวงอ และหายใจแทบไม่ทันเชียวหละ ส่วนมากจะอาเจียนมีเสลดเหนียวๆ ออกมาด้วย เวลาไอเสร็จมันจะหายใจเข้าเสียงดังวู้บ มันไอมาหลายคืนแล้ว ซื้อยาแก้ไอให้กินก็ไม่ดีขึ้น แล้วอยู่ดีๆ สองวันนี้ ตาไอ้เขียวมันก็แดงเถือกไปทั้ง 2 ข้าง เหมือนถูกใครชกมาอย่างงั้นแหละ แหม! พ่อแม่และทุกคนในบ้านเห็นเข้า ก็กลัวว่าตาจะบอด ขึงต้องพามาให้หมอดูนี่แหละ”
รูปที 1 ชายคนนี้นอกจากจะมีเลือดออกมที่ตาขาวแล้ว ยังมีไข้
ตาเหลือง ปวดท้อง เกิดจากโรคติดเชื้อรุนแรง
--------------------------------------------------------------------------------
ตาขาวของหนูเขียว แดงเป็นปื้น (รูปที่ 1) และขอบตาเขียวทั้ง 2 ข้างระยะนี้มันไม่ได้ถูกใครต่อยหรือถูกใครยิงเข้าที่ตาเลยอาการปวดตาเคืองตาก็ไม่มี และขี้ตาก็ไม่เป็น
หมอถามหนูเขียวว่า " มองเห็นชัดไหม"
หนูเขียวก็ตอบว่า "มองเห็นชัดเหมือนปกติทั้ง 2 ข้าง "
หมอถามลุงคำว่า “พักนี้แถวบ้านมีเด็กคนอื่น ๆ ที่ไอแบบเดียวกับหนูเขียวบ้างไหม ?”
“เด็ก ๆ แถวบ้านมีไอกันหลายคน ตกกลางคืนมันแข่งกันไอระงมไปหมดเลย” ลุงถามคำถามหมอต่อไปว่า “แล้วตาของไอ้เขียว จะเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ?’
“ไม่เป็นไรมากหรอกลุง” หมอตอบ “ไอ้เขียวมันเป็นโรคไอกรน มันไอจนเส้นเลือดฝอยที่ตาขาวแตก ทำให้มีอาการห้อเลือดเห็นเป็นปื้นสีแดง มันเป็นที่ภายนอก ไม่ได้กระทบกระเทือนถูกข้างในลูกตา ปล่อยเอาไว้ก็จะค่อย ๆ จางไปเอง ราว ๆ สักหนึ่งถึงสองอาทิตย์ ก็คงจะหายได้หรอก”
ครับ – เด็กที่ตาขาวห้อเลือดเป็นปื้นแดง ถ้าไม่ได้เกิดจากการถูกชกต่อยหรือถูกหนังสติ๊กยิงแล้วละก็ ส่วนมากจะเกิดจาก โรคไอกรน (ไอสามเดือนหรือไอร้อยวัน)
ถ้าไม่ได้เกิดจากโรคไอกรน ก็อาจจะเกิดจากโรคตาแดง ซึ่งจะมีอาการเคืองตา น้ำตาไหลร่วมด้วย
มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ที่อาจเกิดจากโรคที่ร้ายแรง เช่น โรคที่เกี่ยวกับความผิดปกติของเลือดหรือโรคติดเชื้อบางชนิด เป็นต้น พวกนี้นอกจากมีอาการตาเป็นปื้นแดงแล้ว ยังจะมีอาการเป็นไข้ตัวร้อน ซีด เหลือง หรือมีจุดเขียวพรายย้ำขึ้นตามตัว
ถ้าพบคนที่มีอาการตาแดงเป็นปื้น ควรทำอย่างไร ?
ก่อนอื่นให้ดูว่า นอกจากตาแดงแล้ว ยังมีอาการตัวร้อน ซีด เหลือง มีจุดเขียวพรายย้ำขึ้นตามตัว ปวดตา ตามัว อย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่
ถ้ามีอาการเหล่านี้เพียงอย่างหนึ่งอย่างใด ควรแนะนำให้คนไข้ไปหาหมอโดยเร็วถ้าไม่มีอาการดังกล่าว และคนไข้รู้สึกสบายดี กินข้าวได้ ตามองเห็นชัด ก็ให้ดูแลรักษาตามสาเหตุ ดังนี้
รูปที่ 2 เด็กครรี้ถูกหนังสติ๊กยิงเข้าตา มีรอยห้อเลือดที่ตาขวา
เห็นเป็นปื้นแดง
---------------------------------------------------------------------------------
1. ถ้าเกิดจากการฟกช้ำ (รูปที่ 2) เช่น ถูกต่อยหรือถูกหนังสติ๊กยิง ก็ไม่ต้องทำอะไร ตาที่เป็นปื้นแดงจะค่อย ๆ จางหายไปเอง
ข้อสำคัญถ้าพบว่ามีอาการตามัว หรือปวดตามาก แสดงว่าอาจมีการกระทบกระเทือนถูกภายในลูกตา ก็ควรจะแนะนำคนไข้ไปหาหมอโดยเร็ว
2. ถ้าเกิดจากโรคตาแดง ซึ่งเกิดจากการอักเสบ จากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง มักจะเป็นพร้อม ๆ กันหลาย คน คนไข้จะไม่มีอาการไอ นอกจากตาแดงแล้ว อาจมีอาการเคืองตา น้ำตาไหล ให้ป้ายขี้ผึ้งอ๊อคคูเลนต์ที (หลอดละ 2 บาท) หรือขี้ผึ้งเทอรามัยซิน (หลอดละ 10 บาท) สัก 5 ถึง 7 วัน ก็หายได้
3. ถ้าเกิดจากโรคไอกรน ให้ใช้น้ำผึ้ง 4 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ จิบกินบ่อย ๆ ถ้าเด็กอาเจียนมากให้ผสมน้ำเกลือชาวบ้าน (เติมน้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือแกง 1/2 ช้อนกาแฟ ลงในน้ำสุก ขนาด 1 ขวดแม่โขงกลมใหญ่) กินบ่อย ๆ ส่วนอาการตาแดงไม่ต้องทำอะไร จะค่อย ๆ จางหายไปเองภายใน 1-2 อาทิตย์
เด็กที่เป็นโรคไอกรน ส่วนมากจะไอนานเป็นเดือน ๆ แล้วจะค่อย ๆ หายไปเอง ให้รักษาไปตามอาการดังกล่าว และบำรุงด้วยอาหารพวกเนื้อ นม ไข่ มาก ๆ
รูปที่ 3 ตาแดงเป็นปื้นจากโรคไอกรนจะค่อยๆ จางหายไปเองภายใน
1- 2 สัปดาห์
---------------------------------------------------------------------------------------
โรคนี้จะระบาดได้รวดเร็วเหมือนไฟลามทุ่งถ้าเป็นในเด็กโต มักจะไม่มีโรคแทรกร้ายแรงแต่เป็นในเด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี อาจมีโรคปอดบวมแทรกหรือมีอาการชัก ตัวเขียว หยุดหายใจ เป็นอันตรายถึงตายได้
ดังนั้น ถ้าพบเด็กที่เป็นไอกรน มีอาการหอบ เหนื่อย ชักตัวเขียว ควรพาเด็กไปโรงพยาบาลโดยเร็ว ถ้าไม่อยากให้ลูกหลานของท่านเป็นไอกรน ก็จงพาเด็กไปฉีดวัคซีนป้องกันตั้งแต่อายุได้ 2-3 เดือน
เสียซีครับ