เมื่อมีอาการคันตามง่ามเท้า มักทำให้คิดว่าเกิดจากโรคเชื้อรา (กลาก) ดังที่เรียกกันว่า ฮ่องกงฟุตซึ่งจะมีอาการหนังเปื่อยลอกเป็นขุยๆ ( ดังรูป ) และจะรู้สึกคันมาก บางครั้งอาจลุกลามออกไปได้
การรักษา ให้ใช้ยาทารักษาเชื้อรา เช่น ยารักษากลากเกลื้อน ขององค์การเภสัชกรรม ทาวันละ 2-3ครั้ง
เมื่อดีขึ้นให้ทาติดต่อกันไปนาน 4-6 สัปดาห์ หรือไม่อาจใช้ยาน้ำสีแสดที่มีชื่อว่า “ทิงเจอร์ใส่แผลสด” หรือ
“เมอร์ไทโอเลต” ( Merthiolate ) ชะแทนก็ได้
ก่อนใช้ยาทา ควรชะล้างง่ามเท้าด้วยสบู่ แล้วเช็ดให้แห้งอย่าชื้น ถ้าจำเป็นต้องใส่ถุงเท้า ควรใช้ถุงเท้าผ้าอย่าใช้ถุงเท้าไนล่อน เพราะทำให้อับเหงื่อ
ถ้าหากรักษาแล้วไม่ดีขึ้น ก็น่าคิดว่าอาจจะไม่ใช่โรคเชื้อรา เพราะความจริงแล้วสาเหตุของอาการคันตามง่ามเท้าที่พบได้บ่อยอีกอันหนึ่งก็คือ โรคภูมิแพ้ อาจจะเกิดจากการแพ้ถุงน่อง รองเท้า โดยเฉพาะถุงเท้าไนล่อนและรองเท้าหนัง จะทำให้เกิดเป็นเม็ดคัน เป็นๆหายๆ เรื้อรัง คนที่เป็นโรคภูมิแพ้อาจมีประวัติว่าเป็นหวัดคัดจมูกบ่อยหรือเป็นลมพิษผื่นคัน [2]หรือเป็นหืด บางครั้งจะได้ประวัติมีญาติพี่น้องในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้อยู่ด้วย
ถ้ามีสาเหตุจากการแพ้ ก็ควรค้นหาต้นเหตุที่ทำให้แพ้แล้วหลีกเลี่ยงเสีย เช่น สงสัยแพ้รองเท้าหนัง ( ใส่ทีไรคันทุกที ) ก็ให้เปลี่ยนไปใช้รองเท้าผ้าใบแทน ก็อาจจะช่วยให้หายขาดได้
ระหว่างที่อาการคันมากๆให้ใช้ครีมสเตอรอยด์ เช่น ครีมเพร็ดนิโซโลน ทาวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะทุเลา
แต่ถ้าทาแล้วลุกลามมากขึ้น ก็อาจเกิดจากเชื้อรามากกว่าการแพ้
ทั้ง 2 โรคนี้บางครั้งแยกกันไม่ออก
ทางที่ดีเมื่อลองรักษาแบบหนึ่งแบบใดแล้วไม่ดีขึ้น ก็ควรจะให้แพทย์ช่วยตรวจดูให้แน่ใจดีกว่าครับ