ถาม : วิทย์/กรุงเทพฯ
เคยได้ยินคำว่า "อิ่มก็ปวด หิวก็ปวด" นั้น เกี่ยวข้องกับโรคแผลกระเพาะอาหาร แต่ถ้าปวดจากไส้ติ่งอักเสบ มีอาการอะไรให้สังเกตบ้าง
ตอบ : นพ.ธเนศ พัวพรพงษ์
ปวดท้องโรคแผลกระเพาะอาหารมักจะปวดใต้ลิ้นปี่ สัมพันธ์กับอาหาร โดยจะท้องอืดเหมือนอาหารไม่ย่อย หรือปวดจุกเสียดก็ได้ มักเป็นหลังอาหาร (กินอาหารแล้วอาการแย่ลง)
ถ้าเป็นแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น อาจเป็นที่ใต้ลิ้นปี่หรือชายโครงขวา มักปวดจุกเสียดก่อนอาหาร เมื่อกินอาหารแล้วอาการจะดีขึ้น
ปวดท้องไส้ติ่งอักเสบ อาการปวดแบบมาตรฐานที่พบก็คือ จะเริ่มปวดทั่วๆ บอกตำแหน่งแน่นอนไม่ได้ มักเป็นรอบๆ สะดือ
อาจจะปวดเป็นพักๆ หรือตลอดเวลาก็ได้ แต่โดยทั่วไปมักเป็นแบบตลอดเวลา หลังจากนั้นประมาณ 6-10 ชั่วโมงอาการปวดจะย้ายมาที่บริเวณท้องน้อยด้านขวา ต่ำกว่าสะดือ ปวดตลอดเวลา อาจมีไข้ขึ้น มีเบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย
อาการปวดแบบมาตรฐานมักพบประมาณร้อยละ 25 เท่านั้น ส่วนที่เหลืออาจไม่เป็นแบบนี้ แต่ประเด็นสำคัญคือปวดด้านขวาล่างๆ กดเจ็บ เดินตัวงอ เบื่ออาหาร และมักปวดตลอดเวลา
อาการเบื่ออาหารเป็นอาการที่สำคัญมาก พบเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ฉะนั้นถ้าปวดท้องแต่ไม่เบื่ออาหาร กินข้าวได้ปกติ โอกาสเป็นไส้ติ่งอักเสบแทบจะไม่มี
ถ้าไส้ติ่งแตกจะมีไข้สูง 40 องศาเซลเซียส ปวดทั่วท้องทั้งซ้ายและขวา ท้องจะแข็งเกร็งไปหมด เดินไม่ไหวต้องนอนนิ่งๆ
การรักษาไม่ว่าไส้ติ่งจะแตกหรือไม่ จะต้องผ่าตัดเท่านั้น
ระยะแรกของอาการปวดท้อง ไม่ว่าจะเป็นไส้ติ่งหรือโรคอื่นๆ แยกไม่ออกจะต้องใช้การสังเกตอาการ
ดังนั้น ถ้าเพิ่งเริ่มปวดท้องที่ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร อย่าเพิ่งกินยาแก้ปวด จะต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัย เพราะการกินยาแก้ปวดจะทำให้วินิจฉัยโรคยากเนื่องจากยาบดบังอาการปวด