Q แว่นตาสองชั้นหรือชั้นเดียวดี
A แว่นตาสองชั้นคือแว่นที่มีส่วนของเลนส์เป็น 2 ชั้น มีกำลังของเบอร์เลนส์ไม่เท่ากัน ส่วนบนสำหรับการมองในระยะไกล และส่วนล่างสำหรับการอ่านหนังสือในระยะใกล้ ดังนั้นจึงสะดวกในผู้ที่มีความจำเป็นต้องใช้แว่นเป็นประจำเมื่อมองในระยะไกล และหลังจากอายุ 40 ปีจะมีปัญหาสายตายาวเมื่อมองระยะใกล้. แต่สำหรับผู้ที่ไม่มีความจำเป็นต้องใส่แว่นในระยะไกล เมื่อเริ่มมีปัญหาสายตายาวหลังอายุ 40 ปี แนะนำให้ทำแว่นชั้นเดียวเฉพาะใช้อ่านหนังสือ ไม่จำเป็นต้องทำแว่น 2 ชั้นซึ่งต้องใส่ตลอดเวลา หรือในคนที่ปรับตัวกับแว่นสองชั้นยาก อาจเลือกใช้แว่นสองอัน อันหนึ่งสำหรับมองไกล และแว่นอีกอันสำหรับมองใกล้ก็ได้.
นอกจากแว่นตาสองชั้นแล้ว ยังมีแว่นชนิดพิเศษสำหรับผู้ที่มีปัญหาทั้งการมองระยะใกล้และระยะไกล เรียกว่าแว่นไร้รอยต่อ (progressive lens) ซึ่งเป็นการลบรอยต่อของแว่นสองชั้น ทำให้ดูสวยงามมากขึ้น และสามารถเห็นภาพชัดได้ทุกระยะ ไม่ใช่เฉพาะที่ระยะอ่านหนังสือและระยะไกลเหมือนแว่นสองชั้นทั่วไป แต่มีข้อจำกัดคือราคาจะแพงกว่าแว่นสองชั้นมาก และผู้ใส่ใหม่จะรู้สึกงง ต้องใช้เวลาในการปรับตัวประมาณ 1-2 สัปดาห์ โดยปัจจุบันเริ่มมีแว่นไร้รอยต่อที่พัฒนาให้ผู้ใส่รู้สึกงงลดลง แต่ก็มีราคาแพงมากขึ้นอีก การจะพิจารณาใส่แว่นไร้รอยต่อ จึงต้องตัดสินใจให้ดี เพราะแว่นที่มีส่วนแก้สายตายาวนี้มักต้องเปลี่ยนแว่นเป็นประจำทุกปี.
Q แว่นอ่านหนังสือ ซื้อจากแผงลอยได้หรือไม่
A ในกรณีแว่นอ่านหนังสือที่ซื้อสำเร็จรูปตามแผงทั่วไป เปรียบเสมือนการซื้อเสื้อผ้าโหล อาจไม่พอดีกับสายตาเรานัก ต่างจากการวัดสายตาเพื่อประกอบแว่นก็จะได้เบอร์แว่นที่ตรงกับสายตาของเรา เหมือนการวัดตัวตัดเสื้อผ้า. แต่ข้อดีของแว่นสำเร็จรูปคือจะมีราคาถูกกว่ามาก ดังนั้นในกรณีแว่นอ่านหนังสือ ซึ่งมักจำเป็นต้องเปลี่ยนทุกปี และต้องใช้เพียงบางเวลา ถ้าสายตาของท่านก่อนเริ่มมีสายตายาว ไม่เคยมีปัญหาสายตาสั้นหรือเอียงมาก่อน อาจทดลองเบอร์แว่นสายตายาวสำเร็จรูป ถ้าเบอร์ใดใส่แล้วมองเห็นหนังสือชัดเจนดี ไม่งงหรือเวียนศีรษะ อาจซื้อมาใช้เฉพาะเวลาอ่านหนังสือหรือมองใกล้ๆ ได้.
Q เมื่อไหร่จึงควรเปลี่ยนแว่น
A เป็นคำถามที่คนใส่แว่นทุกคนสงสัยอยู่เป็นประจำ หลักใหญ่ๆ คือควรเปลี่ยนแว่นเมื่อเริ่มรู้สึกว่าใส่แว่นแล้วมองไม่ชัดเท่าคนปกติ (หรือไม่ชัดเท่า เมื่อเริ่มใช้แว่นนั้นใหม่ๆ) โดยเฉพาะการมองภาพไม่ชัดนั้นกระทบกระเทือนต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน หรือการเรียน สำหรับคนทั่วไปที่ใส่แว่นอยู่ อาจตรวจวัดระดับสายตากับจักษุแพทย์ปีละครั้ง ถ้าสายตาไม่ตรงกับแว่นเดิมจึงเปลี่ยนแว่น (หรือเปลี่ยนเฉพาะเลนส์) ถ้าสายตาเปลี่ยนบ่อยกว่านั้นอาจต้องปรึกษาจักษุแพทย์ว่ามีสาเหตุผิดปกติอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เพื่อการดูแลรักษาที่เหมาะสมต่อไป.
Q ร้านแว่นชวนซื้อแว่นตาที่มีคุณสมบัติต่างๆ ควรเชื่อดีหรือไม่
A เลนส์แว่นตาที่มีการเคลือบสารป้องกันแสงอัลตราไวโอเล็ต (หรือแสง UV) มีประโยชน์คือ ป้องกันแสง UV ซึ่งมีอยู่ในแสงสว่างทั่วไปเข้าตามากเกินไป ซึ่งอาจมีผลเสียต่อกระจกตา เลนส์ตาทำให้เป็นต้อกระจกเร็วขึ้น หรือเกิดจอประสาทตาเสื่อมได้เร็วขึ้น ถ้าเลือกได้ควรใช้เลนส์แว่นแบบเคลือบกัน UV เพราะราคาไม่แพง และเป็นประโยชน์กับดวงตา. แต่การทดสอบว่าเลนส์แว่นตาป้องกัน UV ได้มากน้อยเพียงใด ต้องทดสอบโดยการใช้เครื่องมือพิเศษทดสอบเท่านั้นจึงจะทราบได้.
สำหรับการเคลือบมัลติโค้ท (multicoat) เพื่อประโยชน์ในการป้องกันแสงสะท้อนที่เลนส์แว่นตา มีประโยชน์ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น แต่อาจทำให้เลนส์แว่นมีราคาสูงขึ้น เหมาะสำหรับผู้ใช้แว่นที่ต้องอยู่กับแสงสว่างมากเช่น ใช้คอมพิวเตอร์หรือขับรถในเวลากลางคืน เป็นต้น.
การย้อมสีเลนส์แว่นตา มีได้หลายสี เช่น สีชา สีเทา สีชมพู สีเหลืองและสีเขียว ประโยชน์นอกจากเพื่อความสวยงามแล้ว ยังช่วยลดความเข้มของแสงที่เข้าตา แต่ไม่สัมพันธ์กับการป้องกันแสง UV เข้าตา ราคาไม่แพงมากขึ้น และอาจมีประโยชน์ในบางกรณีเช่น เลนส์แว่นย้อมสีเหลืองจะทำให้การ มองเห็นภาพในเวลากลางคืนชัดเจนขึ้น เป็นต้น.
สำหรับแว่นกันแดด มีประโยชน์ช่วยในการลดความเข้มของแสง ทำให้สบายตามากขึ้น แต่ความเข้มของสีแว่นกันแดด ไม่ได้แสดงว่ากันแสง UV ได้มากขึ้น นอกจากนั้นยังไม่ควรเลือกแว่นกันแดดที่สีมืดเกินไป เพราะอาจทำให้การมองเห็นลดลง และทำให้ม่านตาขยายรับแสง UV เข้าไปเป็นอันตรายต่อดวงตาได้มากขึ้นอีกด้วย.
Q การดูแลรักษาแว่น มีวิธีการอย่างไร
A 1. ควรทำความสะอาดเลนส์แว่นตาด้วยน้ำสบู่อ่อนๆ แล้วเช็ดด้วยผ้านุ่มๆ เป็นประจำทุกวัน ไม่ใช้สารเคมีหรือแอลกอฮอล์เช็ดแว่น เพราะอาจทำอันตรายต่อเลนส์แว่นหรือสารที่เคลือบอยู่ได้.
2. การใส่และถอดแว่น ต้องจับขาแว่นด้วยมือทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันขาแว่นหักหรือเบี้ยว และระวังการนอนหรือนั่งทับแว่น เพราะอาจทำให้แว่นบิดเบี้ยวหรือหักได้.
3. การวางแว่น ห้ามเอาส่วนเลนส์แว่นคว่ำลง เพราะจะทำให้เป็นรอยขีดข่วนได้ ควรเก็บแว่นในซองแว่น และเมื่อแว่นมีรอยขีดข่วนมาก หรือเริ่มมองเห็นภาพไม่ชัด ควรไปวัดสายตาเพื่อเปลี่ยนแว่นตาใหม่.
Q การดูแลคอนแทคเลนส์ มีวิธีการอย่างไร
A คอนแทคเลนส์เป็นทางเลือกหนึ่งของการแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติ โดยให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าการใช้แว่นตา แต่มีความจำเป็นต้องดูแลรักษาให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยต่อดวงตา.
คอนแทคเลนส์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันมักใช้คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม อาจเป็นแบบใช้ชั่วคราวแล้วทิ้งซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีทั้งชนิดที่ใช้ได้ 1 วัน, 2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน มีข้อดีคือช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นแผลติดเชื้อที่กระจกตา และลดการเกิดการแพ้คอนแทคเลนส์ แต่จะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่าใช้คอนแทคเลนส์แบบถาวร ซึ่งใช้ได้ประมาณ 2 ปี. อย่างไรก็ตามการใช้คอนแทคเลนส์ทั้ง 2 ชนิดควร ใส่เฉพาะเวลาจำเป็น ไม่ควรใส่นอนหรือใส่ลงเล่นน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระจกตาซึ่งอาจเป็น อันตรายอย่างถาวรแก่ตาได้. ดังนั้นหากท่านคิดจะใช้คอนแทคเลนส์อย่างปลอดภัย ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด.
Q คอนแทคเลนส์สี..เพื่อแฟชั่นมีอันตรายหรือไม่
A คอนแทคเลนส์มีทั้งชนิดใสไม่มีสี ใช้เพื่อแก้ปัญหาสายตาสั้นหรือเอียง และคอนแทคเลนส์ชนิดสี ซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ทั้งด้านความสวยงามและการรักษาความผิดปกติของตา เช่นคอนแทคเลนส์ซึ่ง วาดเป็นรูปม่านตาใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหากระจกตาขุ่นขาว เพื่อให้ดูสวยงามขึ้น หรือในปัจจุบันมีการใช้คอนแทคเลนส์สีเป็นแฟชั่น โดยใช้สีต่างๆ ซึ่งมีข้อดีคือทำให้ใบหน้าดูสวยงามแปลกตา แต่มีข้อเสียคือ คอนแทคเลนส์สีมักมีราคาแพง และต้องรักษาความสะอาดอย่างดี ป้องกันเกิดการติดเชื้อที่กระจกตา เพื่อให้คุณสามารถใช้ดวงตาอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับความงามได้ตลอดไป.
บรรณาธิการ
วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา พ.บ. ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล รามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
ผู้นิพนธ์
ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ.
ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์