• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อาการ Jet Lag

ถาม : นภดล/ชลบุรี
คนที่เดินทางด้วยเครื่องบินข้ามทวีป เช่น จากสหรัฐอเมริกามาประเทศไทย หรือจากประเทศไทยไปแอฟริกาใต้ มักพูดกันถึงเรื่องอาการ Jet Lag นั้น หมายถึงอะไร
 

ตอบ : นพ.ปารยะ อาศนะเสน

Jet Lag เป็นกลุ่มอาการที่เกิดขึ้นกับคนที่เดินทางไกลเป็นเวลานานหลายชั่วโมงบนเครื่องบิน เช่น บินข้ามทวีป เปลี่ยนโซนเวลา ทำให้ระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ เปลี่ยนไปด้วย ซึ่งปกติร่างกายจะทำเหมือนนาฬิกาชีวิต เช่น ตื่นนอนตอน ๖ โมงเช้า ทำกิจกรรมต่างๆ จนถึงเย็นและเข้านอนเวลา ๔ ทุ่ม การทำงานของอวัยวะต่างๆ ก็จะเป็นไปตามช่วงจังหวะเวลาดังกล่าวจนเคยชิน

หากมีการเดินทางข้ามโซนเวลามากๆ ร่างกายจะปรับตามไม่ทัน ส่งผลกระทบต่างๆ ตามมา เช่น มีอาการง่วงนอน แต่นอนไม่หลับ อ่อนเพลีย รู้สึกหดหู่ ฉุนเฉียวง่าย สับสน และสูญเสียความจำ นอกจากนั้น อวัยวะต่างๆ อาจทำงานผิดปกติได้  เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ และอัตราการหายใจเร็วขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ส่งผลให้เกิดอันตรายได้

ฉะนั้น ก่อนเดินทางไกลต้องค่อยๆ ปรับเวลาการกินอาหาร การพักผ่อน และเวลานอนให้ใกล้เคียงกับสถานที่ที่จะไป เพื่อให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้อย่างเหมาะสม ไม่มีอาการผิดปกติ เมื่อเริ่มเดินทาง ช่วงระหว่างการบินควรแต่งตัวสบายๆ ไม่รัดรูปเกินไป และตั้งเวลาตามจุดหมายปลายทางและทำกิจวัตรประจำวันที่เคยทำ เช่น ตอนเช้า กินอาหารตามเวลาของจุดหมายปลายทาง หลีกเลี่ยงกาเฟอีนและแอลกอฮอล์ เพราะสารดังกล่าวจะขจัดน้ำออกจากร่างกาย ควรดื่มน้ำผลไม้หรือน้ำเปล่ามากๆ เพื่อลดความกดดันของอากาศ และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย และปิดท้ายด้วยการนอนและตื่นขึ้นตามตารางเวลาของจุดหมายปลายทาง

เมื่อถึงที่หมาย ถ้าเวลาต่างกันมาก จะต้องนอนในช่วงเวลากลางวัน ให้นอนน้อยกว่า ๒ ชั่วโมง และออกนอกบ้านในตอนที่มีแสงสว่างเร็วกว่า ๒ ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้เร็วขึ้น และดื่มนม ๑ แก้วก่อนเข้านอน จะช่วยให้หลับได้สนิทขึ้น แต่ถ้านอนไม่หลับอาจต้องปรึกษาแพทย์เพื่อกินยานอนหลับตามแพทย์สั่ง

นอกจากนี้ เพื่อช่วยลดอาการ Jet Lag สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางไกลข้ามโซนเวลานั้น ควรหาเที่ยวบินที่จะไปถึงที่หมายตอนกลางคืน จะช่วยให้ร่างกายปรับตัวได้ง่ายขึ้น อย่าเผลองีบหลับนานๆ จะทำให้ปรับตัวเข้ากับเวลาใหม่ได้ยาก ถ้าง่วงมากควรงีบหลับเป็นระยะเวลาสั้นๆ และควรออกไปรับแสงแดดในตอนกลางวันเมื่อถึงที่หมาย เพื่อให้ร่างกายได้รับรู้เวลาตื่น