• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ปัญหาจากถุงยางอนามัย

ปัญหาจากถุงยางอนามัย

การใช้ถุงยางอนามัยในขณะที่ภรรยาตั้งครรภ์ จะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์หรือไม่ เพราะในถุงยางอนามัยมีสารหล่อลื่นที่ผสมตัวยาฆ่าเชื้อบางตัวอยู่

ผู้ถาม สมชาติ/กรุงเทพฯ
ผู้ตอบ นพ.พนิตย์ จิวะนันทประวัติ

ถาม
ผมอายุ 35 ปี ภรรยาอายุ 27 ปี แต่งงานกันมาได้ประมาณ 1 ปี 6 เดือน ภรรยาเคยตั้งครรภ์ 2 เดือนแล้วแท้ง ปัจจุบันภรรยาตั้งครรภ์ได้เกือบ 4 เดือนแล้ว ผมกับภรรยาใช้วิธีคุมกำเนิดแบบนับวันและใช้ถุงยางอนามัย ครั้งหลังสุดก่อนที่จะรู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ ผมร่วมเพศโดยใช้ถุงยางอนามัย

ขอเรียนถามว่า การใช้ถุงยางอนามัยในขณะที่ภรรยาตั้งครรภ์นั้น จะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ในด้านการเจริญเติบโตของอวัยวะและด้านสติปัญญาหรือไม่ เพราะในถุงยางอนามัยนั้น ผมทราบว่า เคลือบสารหล่อลื่นที่มีตัวยาฆ่าเชื้ออสุจิ และตัวยาฆ่าเชื้อโรคบางตัว เช่น ฆ่าเชื้อเริมรวมอยู่ด้วย จึงกลัวจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์

ตอบ
ปัญหาของคุณอยู่ที่ว่า ถุงยางอนามัยจะมีผลกับทารกในครรภ์หรือไม่

ความจริงแล้วคนที่ใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิดแล้วเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมาก็มีอยู่มิใช่น้อย แบบเดียวกับกรณีของคุณนี่แหละครับ แต่ก็ไม่มีใครเขาคิดถึงจุดนี้ เหตุการณ์จึงผ่านไปโดยที่ไม่มีการกังวลใจแต่อย่างใด เด็กๆ ที่เกิดมาก็สบายกันดีทุกคน

ในทุกวันนี้มีประมาณหนึ่งร้อยล้านคู่สมรสที่นิยมใช้ถุงยางอนามัยในการคุมกำเนิด โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีประชากรกลัวความพิการมาแต่กำเนิดมากที่สุด เพราะมีตัวอย่างให้เห็นกันมากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ชาวญี่ปุ่นจึงระมัดระวังในเรื่องนี้มาก เรื่องอะไรก็ตามที่จะไปกระทบกระเทือนหรือคิดว่ามีผลต่อการตั้งครรภ์ ชาวญี่ปุ่นเป็นหลีกเลี่ยงไว้ก่อน

ปรากฏว่า ชาวญี่ปุ่นไม่นิยมใช้ยาคุม (ไม่ว่าจะกินหรือฉีด) เป็นวิธีคุมกำเนิดแบบชั่วคราว แต่นิยมใช้ถุงยางอนามัยแทน เพราะเห็นว่าปลอดภัยที่สุด และเป็นที่แน่นอนว่าการคุมกำเนิดด้วยถุงยางอนามัยนี้ ประสิทธิภาพอย่างเก่งก็ประมาณร้อยละ 95 โดยเฉลี่ย จึงมีอยู่จำนวนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ทั้งๆ ที่ใช้ถุงยางอนามัย และก็แน่นอนอีกว่า จำนวนหนึ่งที่ตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจนี้ เด็กจะไม่มีโอกาสออกมาดูโลก เพราะถูกทำแท้งเสียก่อน ในประเทศญี่ปุ่นเขาอนุญาตให้ทำแท้งได้เมื่อจำเป็น แต่เด็กอีกจำนวนหนึ่งก็ได้มีโอกาสลืมตาดูโลก เรียกว่าเป็นเด็ก “ดวงแข็ง” ยังไม่เคยมีรายงานทางการแพทย์ออกมาเลยว่า คนที่ใช้ถุงยางอนามัยแล้วพลาดท่าตั้งครรภ์ขึ้นมา (ไม่ว่าจะใช้เวลาไหนก็ตาม) มีผลทำให้เด็กพิการ ขอให้คุณสบายใจได้

ที่ผมยกเอาชาวญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างนั้น ก็เพราะว่าคุณหรือใครๆ คงจะรู้จักประเทศญี่ปุ่นดีว่า บุคลากรหรือทรัพยากรมนุษย์ของเขานั้นเป็นอย่างไร

ที่สำคัญที่สุด ชาวญี่ปุ่นนิยมถุงยางอนามัยเป็นอันดับหนึ่งในการคุมกำเนิด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในกรณีที่จะตั้งครรภ์ในโอกาสต่อไป เขาไว้ใจถุงยางอนามัย ว่างั้นเถอะ

เมื่อเป็นเช่นนี้พอจะรับประกันได้นะครับว่า ถุงยางอนามัยปลอดภัย แม้ว่าถุงยางอนามัยนั้นจะเคลือบด้วยสารที่เลือกสรรแล้วหลายๆ ชนิด และสารทั้งหลายเหล่านั้นต่างก็ผ่านการรับรองของทางการแพทย์มาแล้วทั้งสิ้น สบายใจได้นะครับ