• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

อวัยวะเพศตกสะเก็ด

เป็นขุยลอกได้เป็นชิ้นเล็กๆ กินบริเวณกว้าง-ยาว ประมาณ 1 ซ.ม. และมีจุดสีน้ำตาลเล็กๆอีกประมาณ 10 จุด เกิดจากสาเหตุอะไร

ถาม

ขอเรียนถามดังต่อไปนี้
1. ปกติทุกวันนี้ผมตื่นนอนเช้าขึ้นมา ซึ่งมันเป็นเหตุการณ์ในตอนเช้า คือหลังจากตื่นนอนแล้วจะสังเกตเห็นว่า ตรงบริเวณด้านบนส่วนหัวของอวัยวะเพศเกิดการตกสะเก็ดเป็นขุยขาวลอกได้เป็นชิ้นเล็กๆ กินบริเวณกว้าง, ยาวประมาณ 1 ซ.ม. ซึ่งก่อนหน้านี้ผมก็เคยเป็น คือเป็นตอนนั้นสัก 3-4 ปี มาแล้ว ไปรักษามาหลายหมอไม่รู้ว่าหายหมอไหน เคยไปขอหมอตรวจยา หมอก็ไม่ยอม และปัจจุบันก็เป็นๆหายๆ อยากทราบอาการของโรคในการรักษาให้หายขาด (ผมขริบหนังหุ้มแล้วครับ) ไม่ทราบสาเหตุการแพ้ที่แน่นอน แต่สาเหตุเก่าที่พอจะนึกออกมีดังนี้

ผมเคยเป็นหงอนไก่มาก่อน และในการรักษาแต่ละครั้งหมอใช้ยาจี้ ยาดังกล่าวมีลักษณะเป็นน้ำสีดำ มีกลิ่นเหมือนยาทิงเจอร์ไอโอดีน เวลาจี้แต่ละครั้ง เจ็บและแสบมาก หลังจากจี้ยา 1 วัน เปิดหนังหุ้มดู (ตอนนั้นที่เป็นอยู่ในระหว่างปี 2524-2526 และยังไม่ขริบหนังหุ้ม) จะลอกเป็นแผ่นๆได้ครับ

หลังจากนั้นก็จี้ยามาตลอดเพราะไอ้หงอนไก่ไม่หายขาดเสียที ซึ่งได้ไปหายขาดในช่วงไหนจำไม่ค่อยได้ แต่จำได้ว่าไปหายที่โรงพยาบาลเชียงใหม่ (รพ.ลานนา) หมอที่โรงพยาบาลลานนาเชียงใหม่ใช้เกล็ดขาวๆจี้หรือตัดยังไงไม่ทราบ หงอนไก่ก็หลุด พอหงอนไก่หลุดก็เป็นอาการตกสะเก็ด ก่อนที่จะตกสะเก็ดเคยเป็นหนองนอกด้วย และเป็นอีกอย่างก็คือบริเวณด้านบนส่วนหัวของอวัยวะเพศ จะเหมือนกับฟองน้ำ มีน้ำเหลือง เลือดเยิ้มตลอดเวลา เวลาฉี่แต่ละครั้งจะแสบมาก และอาการของโรคทั้งหมดนี้ผมคิดว่าอาจเป็นสาเหตุของอาการโรคในข้อ 1 ใช่ไหมครับ

ในระยะที่เกิดอาการตกสะเก็ด เคยไปให้หมอ รพ.ดู หมอก็แนะนำให้ขริบ ซึ่งจะแก้โรคตกสะเก็ดที่ลอกเป็นแผ่นๆขาวได้ ผมก็ขริบหนังหุ้มตามที่หมอแนะนำ หลังจากขริบได้ไม่กี่วัน อาการตกสะเก็ดขาวๆเป็นมากขึ้น สักระยะหนึ่งก็เป็นบางลง จนถึงปัจจุบันนี้ ก็หายไปได้มาก แต่ก็ยังมีลักษณะเป็นผื่นสีดำหรือน้ำตาลอยู่ด้วย

และก็เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.30 ก็เริ่มมีอาการลอกเป็นขุยขาวอีกจนถึงวันนี้ ผมได้ใช้ยา “เดอร์โมเวตครีม” มาทารู้สึกว่าขุยขาวหายไปบ้าง แต่ผมกลัวว่าจะไม่หายขาด จึงเขียนจดหมายมาขอคำแนะนำที่ถูกต้อง ผมมีความกังวลใจมากอยากได้ยาที่รักษาให้หายขาดได้ ภายในระยะเวลา 4 เดือน จะได้ไหม เพราะผมจะต้องแต่งงานภายใน 5 เดือน (นับตั้งแต่นี้ไปอีก 5 เดือน) ผมเคยแพ้ยาจำพวก ซัลฟา, แอมพิซิลลิน

2. ที่บริเวณรอบคออวัยวะเพศเริ่มมีจุดสีน้ำตาลเล็กๆอีกประมาณ 1o จุดไม่ทราบเกิดจากสาเหตุอะไร (ผมได้เที่ยวมาเป็นเวลา 4 ปีแล้วครับ)

3. เวลาร้อนๆ รู้สึกคันในร่มผ้า ขนาดอาบน้ำ ทาแป้งวันละ 3 เวลา เวลาคันจะมีเหงื่อออกมาด้วย

ผมอยากขอถามรวมว่า อาการของโรคทั้งหมดที่เล่ามานี้
1. มีโอกาสหายขาดหรือเปล่าครับ
2. สาเหตุของการติดเชื้อและป้องกันการติดเชื้อ พร้อมยารักษา รวมถึงการรักษาที่ถูกวิธีโดยไม่ให้กลับมาเป็นอีก
3. ถ้าแต่งงานไปแล้วจะมีปัญหาอะไรบ้าง
4. พวกที่แพ้ยาจำพวกซัลฟา จำเป็นต้องแพ้ยาจำพวก เพร็ดนิโซโลน, นีโอมัยซิน และจำพวกอะไรอีกบ้าง (ทั้งยาทาและยากิน)
สมพล/ลำปาง

ตอบ

1. ตามที่บรรยายมานั้นผมจับความได้ว่า คุณมีปัญหาอยู่ 2 ประการ คือ ประการแรก มีสะเก็ดที่บริเวณอวัยวะเพศ คงจะเป็นการอักเสบของผิวหนังในส่วนนี้ (Balanitis) และอีกประการหนึ่ง มีจุดสีน้ำตาลเล็กๆเกิดขึ้นที่บริเวณรอบคออวัยวะเพศ

การอักเสบของผิวหนังในส่วนหัวของอวัยวะเพศ (Balanitis) นั้น มีสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น อาจจะแพ้ยา เป็นจากเชื้อแบคทีเรีย, เชื้อราพวกแคนดิดา (Candida) การเสียดสีกับกางเกงที่คับไป เป็นต้น มีโอกาสหายขาดได้ ถ้าได้รับการรักษาตามสาเหตุที่เกิด

ส่วนจุดสีน้ำตาลเล็กๆที่บริเวณคออวัยวะเพศ อาจจะเป็นเนื้องอก (ชนิดไม่ร้าย) บางอย่างก็เป็นได้ วิธีการรักษาอาจจะต้องใช้เครื่องจี้ไฟฟ้า ทำลายทิ้ง หรือตัดออก

2. วิธีป้องกันการติดเชื้อคือ เสื้อผ้าที่ใช้ต้องตากแดดให้แห้ง ควรใส่เสื้อผ้าที่ไม่คับจนเกินไป กางเกงชั้นในควรเป็นผ้าชนิดที่ดูดซับเหงื่อได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย ไม่ควรใช้พวกใยสังเคราะห์หรือไนล่อน การรักษาก็ต้องเป็นไปตามสาเหตุดังกล่าวในข้อ 1

3. ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร ถ้าไม่ได้เป็นจากการติดเชื้อภรรยาก็ไม่ติดโรค แต่ถ้าเป็นจากโรคติดเชื้อ ก็รักษาให้หายดีเสียก่อน

4. คนที่แพ้ยา ซัลฟา ไม่จำเป็นต้องแพ้ยาอื่นๆ แต่มีหลายคนที่แพ้ยาหลายชนิดพร้อมๆกัน ดังนั้นจึงต้องระวังในการใช้ยากับผู้ป่วยที่มีอาการแพ้ยา
นพ.สมยศ จารุวิจิตรรัตนา