• ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

ประจำเดือนในวัยเรียน

ประจำเดือนในวัยเรียน

ถาม : พิมมาดา/กรุงเทพฯ
ดิฉันมีลูกสาวอายุ ๑๓ ย่าง ๑๔ ปี เริ่มมีประจำเดือนแล้ว ปกติลูกสาวเป็นคนสนุกสนาน ร่าเริง ชอบเล่นกีฬา ขอเรียนปรึกษาดังนี้

๑. วัยเรียนมีประจำเดือนต้องลาหยุดหรือไม่

๒. ถ้ามีประจำเดือนในช่วงที่ต้องเรียนพละควรทำอย่างไร

๓. กำลังจะถึงวันสอบประจำเดือนมาพอดี จะแก้ปัญหาอย่างไร

๔. การกินยาเพื่อเลื่อนประจำเดือนอันตรายไหม
 

ตอบ : นพ.สมชัย โกวิทเจริญกุล
คุณแม่ไม่ควรแสดงอาการวิตกกังวลจนออกนอกหน้า จนลูกสาวคุณวิตกกังวลตามไปด้วย แต่การห่วงใยและช่วยหาทางออกให้ลูกสาวของคุณเป็นสิ่งที่ดี ขอตอบปัญหาที่ถามมาเป็นข้อๆ ดังนี้

๑. ขณะมีประจำเดือนไม่จำเป็นต้องหยุดเรียน เพราะต้องเข้าใจว่าประจำเดือนเป็นปรากฏการณ์ของธรรมชาติในร่างกาย ไม่ใช่เป็นโรค ไม่ใช่เรื่องน่าอาย ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว หรืออันตรายไปเรียนหนังสือหรือทำงานได้ตามปกติ แม้มีอาการปวดประจำเดือนก็กินยาแก้ปวดได้ ยกเว้นมีอาการปวดมากๆ จนทนไม่ได้ หรือเลือดประจำเดือนไหลมากผิดปกติ อาจต้องหยุดพักหรือมาพบแพทย์เพื่อรักษา

๒. ถ้าประจำเดือนมากะทันหัน ขณะเล่นพลศึกษาควรขออนุญาตครูเพื่อไปจัดการเรื่องสุขอนามัยให้เรียบร้อย ไม่ควรอาย โดยอาจขอไปเข้าห้องน้ำก็ได้ โดยเฉพาะหากมีการออกกำลังกายที่รุนแรงก็ควรงด หรือมีอาการปวดท้องร่วมด้วยควรนั่งพักผ่อน ไม่ควรตากแดดมากๆ ขณะมีประจำเดือน เพราะอาจเกิดหน้ามืดเป็นลมได้ง่าย

๓. ใกล้ถึงวันประจำเดือนกำลังจะมาควรทำ ดังนี้

  • ทำใจให้สบายไม่ต้องห่วงหรือกังวลเรื่องประจำเดือน เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ ควรเตรียมกินยาแก้ปวดก่อนเกิดอาการปวดประจำเดือนก็ได้เพื่อให้เกิดความมั่นใจ บางครั้งอาจขอยาเลื่อนประจำ เดือนจากแพทย์ก็ได้ หากกลัวว่าขณะสอบจะมีปัญหาเรื่องประจำเดือน
     
  • ความกังวล ความกลัว ความตื่นเต้น หรือสภาพจิตใจที่ว้าวุ่นอาจทำให้ประจำเดือนมาก่อน หรือมาช้ากว่ากำหนด หรือประจำเดือนไม่มาเลยก็ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้อง รักษา แต่ต้องพยายามทำจิตใจให้สบายดีกว่าจะได้ไม่เป็นอีก

๔. ก่อนกินยาเลื่อนประจำเดือน ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อจะได้ทราบว่ามีประวัติที่ห้ามกินยาหรือไม่ เช่น ประจำเดือนผิดปกติอยู่ก่อนแล้ว หรือไม่มีการตั้งครรภ์อยู่ หลังกินยาเลื่อนประจำเดือน อาจทำให้รอบประจำเดือนเปลี่ยนแปลงไปจากรอบปกติ ซึ่งไม่มีอันตราย แต่ขอให้จดบันทึกการมีประจำเดือนไว้ เผื่อมีปัญหาจะได้นำมาปรึกษาแพทย์ในภายหลัง ยาเลื่อนประจำเดือนถ้ากินไม่ตรงตามเวลาอาจทำให้มีประจำเดือน กะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่มีอันตราย และทุกครั้งที่หยุดยาก็จะมีประจำเดือนมาหลังจากหยุดยาแล้วประมาณ ๓-๔ วัน