วิทยาลัยเภสัชบำบัดฯ จัดประชุมวิชาการ Contemporary Review in Pharmacotherapy 2014 ตกตะกอนองค์ความรู้ ต่อยอดสู่เวชปฏิบัติ

วิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย มีพันธกิจหลักในการฝึกอบรมเภสัชกรให้เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเภสัชบำบัด โดยความร่วมมือกับคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งมีปรัชญาของหลักสูตร คือ ส่งเสริม ฝึกฝน และวิจัยองค์ความรู้ ทักษะและเจตคติในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม สาขาเภสัชบำบัด เพื่อเพิ่มคุณภาพและยกระดับมาตรฐานในการให้บริการทางเภสัชกรรมและการบริบาลทางเภสัชกรรมในระดับสูง ผู้ผ่านการอบรมสามารถเป็นผู้แนะนำการใช้ยาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม บนพื้นฐานของข้อมูลที่ทันสมัยและเชื่อถือได้ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการใช้ยา และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 

 

วิทยาลัยเภสัชบำบัดฯ จึงได้ดำเนินการจัด ประชุมวิชาการเรื่อง Contemporary Review in Pharmacotherapy 2014 ขึ้น ในระหว่างวันที่ 19 - 21 มีนาคม พ.ศ.2557 เวลา 08.30–16.30 น. ณ ห้องประชุมกิ่งเพชร ชั้น 3 โรงแรมเอเชีย เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาและส่งเสริมศักยภาพบุคลากรผู้ปฏิบัติงานด้านบริบาลทางเภสัชกรรม อีกทั้งยังเป็นการแสวงหาความร่วมมือกับเภสัชกรผู้ปฏิบัติงานเภสัชกรรมคลินิกเพื่อพัฒนาเป็นเภสัชกรผู้มีความรู้ความชำนาญประจำแหล่งฝึกของหลักสูตร

 

ภก.ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช ประธานวิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า วิทยาลัยเภสัชบำบัดฯ มีการจัดการประชุมวิชาการเป็นประจำทุกปี ล่าสุดกับการจัดประชุมวิชาการเรื่อง Contemporary Review in Pharmacotherapy 2014 ซึ่งถือเป็นการประชุมระดับเกรด A ของประเทศไทย เนื่องจากหัวข้อการประชุมแต่ละหัวข้อล้วนมีความน่าสนใจ และครอบคลุมทุกโรคที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยา อีกทั้งยังได้รับเกียรติจากเภสัชกรผู้มีชื่อเสียงระดับชาติเข้าร่วมการบรรยายในหัวข้อดังต่อไปนี้ ‘Hematology and Oncology’ โดย ภญ.อ.ดร.ณัฏฐดา อารีเปี่ยม คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ภก.ผศ.ดร.สุภัสร์ สุบงกช คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ‘Infectious Diseases’ โดย ภก.ผศ.ดร.ปรีชา มนทกานติกุล คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ภญ.ผศ.ดร.ปวีณา สนธิสมบัติ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, อ.ภก.วสันต์ กาติ๊บ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ภก.นิรันดร์ จ่างคง ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลราชบุรี ‘Endocrine Disorders’ โดย ภก.อ.กฤติน บัณฑิตานุกูล คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ‘Renal Diseases’ โดย ภก.อ.วีรชัย ไชยจามร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม, ภญ.ผศ.ดร.พัชราภรณ์ สุดชาฎา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ‘Cardiovascular Disease’ โดย ภก.พีรวัฒน์ จินาทองไทย คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ภญ.อ.ดร.ฐิติมา ด้วงเงิน คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์,ภก.ผศ.ดร.อรัมษ์ เจษฎาญานเมธา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, ภญ.อ.พรวลัย บุญเมือง คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร  ‘Neurology and Psychiatry’ โดย ภก.อ.ธนรัตน์ สรวลเสน่ห์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, ภญ.รศ.อาภรณี ไชยาคำ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น, ภญ.รศ.ดร.จุฑามณี สุทธิสีสังข์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ‘Gastrointestinal Disorders’ โดย ภก.จิตติพล ตันติวิท คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ‘Nutrition Support’ โดย ภญ.เปญจมาภรณ์ อภิรมย์รักษ์ ฝ่ายเภสัชกรรม โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และ ‘Respiratory Diseases’ โดย ภญ.รศ.สุณี เลิศสินอุดม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น 

จึงมั่นใจได้ว่าผู้เข้าร่วมการประชุมจะได้รับความรู้ที่เป็นปัจจุบัน ทันสมัย และสามารถนำไปใช้ได้จริงในการประกอบวิชาชีพ

 

ในส่วนของไฮไลต์การประชุม ทุกหัวข้อการประชุมเป็นไฮไลต์สำคัญ ด้วยเนื้อหาที่ครอบคลุมทุกโรค ตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งและโรคระบบเลือด ไฮไลต์จะเป็นการรักษาและหลักการใช้ยาใหม่ที่จะมาอัพเดตให้ผู้แก่ผู้เข้าร่วมการประชุมให้สามารถนำไปใช้ได้จริงในการประกอบวิชาชีพ ส่วนในระบบอื่น ๆ เช่น โรคระบบติดเชื้อ โรคไต จะเป็นไฮไลต์ที่สนับสนุนโครงการของรัฐบาลที่เรียกว่า National Service Plan ซึ่งเป็นโครงการของกระทรวงสาธารณสุขที่สนับสนุนให้มีเภสัชกรในระดับผู้เชี่ยวชาญเข้าไปให้บริการในเชิงการใช้เภสัชบำบัดขั้นสูง

 

 

ทั้งนี้ คาดว่าการประชุมในปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากสถานที่การจัดการประชุมสามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้จำนวนมาก การเดินทางมีความสะดวกสบาย เอื้ออำนวยให้ทั้งนักศึกษา นิสิตเภสัชศาสตร์ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง บุคลากรที่อยู่ในทีมสหสาขาวิชาชีพได้เข้ามามีโอกาสร่วมเข้าฟังการบรรยาย ไม่จำกัดเฉพาะเภสัชกรที่อยู่ในโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งทุกคนจะได้รับประโยชน์ทางด้านวิชาการและการต่อยอดความรู้จากกิจกรรมทั้ง 3 วันนี้ อีกทั้งยังได้รับหน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่องตลอดงานประชุมจำนวน 16.5 หน่วยกิต  

 

“การประชุมครั้งนี้ถือเป็นการตกตะกอนองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่ไม่ได้ลึกจนเกินไปและสามารถนำไปใช้ได้จริง พร้อมกันนี้ยังจะได้รับเอกสารประกอบการประชุมที่มีคุณภาพ และยังมีโอกาสที่จะได้พบกับผู้เชี่ยวชาญในระหว่างการประชุม ซึ่งเป็นไปได้ยากที่รวมผู้เชี่ยวชาญไว้ได้มากขนาดนี้ในการประชุมใดประชุมหนึ่ง” ภก.ผศ.ดร.สุภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย