ตับแข็ง
ระยะแรกเริ่ม อาจไม่มีอาการผิดปกติชัดเจน จนเมื่อเซลล์ตับถูกทำลายเป็นจำนวนมาก ก็จะมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ น้ำหนักลด เท้าบวม ดีซ่าน (ตาเหลือง ตัวเหลือง) คันตามตัว อาจรู้สึกเจ็บบริเวณชายโครงขวาเล็กน้อย ความรู้สึกทางเพศลดลง
บางรายอาจสังเกตเห็นฝ่ามือแดงผิดปกติ หรือจุดแดงที่หน้าอก หน้าท้อง
ในผู้หญิงอาจมีอาการประจำเดือนขาด หรือมาไม่สม่ำเสมอ มีหนวดขึ้น หรือเสียงแหบห้าวคล้ายผู้ชาย
ในผู้ชายอาจมีอาการนมโตและเจ็บ อัณฑะฝ่อตัว องคชาตไม่แข็งตัว
ในระยะท้ายของโรค (หลังจากเป็นตับแข็งอยู่หลายปี หรือผู้ป่วยยังคงดื่มสุราจัด) ผู้ป่วยจะมีอาการท้องบวม (มีน้ำในท้องหรือท้องมาน) หลอดเลือดขอดที่ขา หลอดเลือดพองที่หน้าท้อง อาเจียนเป็นเลือดสด เนื่องจากมีหลอดเลือดขอดที่หลอดอาหาร แล้วเกิดการปริแตกขึ้นมา มีจุดแดงจ้ำเขียวตามตัว
ในที่สุดเมื่อเซลล์ตับถูกทำลายจนหมดสิ้น ผู้ป่วยมักจะมีอาการผิดปกติทางสมอง เกิดอาการซึม เพ้อ มือสั่น ค่อยๆ ไม่รู้สึกตัวลงจนกระทั่งหมดสติ
การดำเนินโรค
โรคนี้ถ้าเป็นระยะแรกเริ่มและปฏิบัติตัวได้เหมาะสม (ไม่ดื่มสุราอย่างเด็ดขาด) จะสามารถมีชีวิตได้นานเกิน 5-10 ปีขึ้นไป
แต่ถ้าปล่อยให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ท้องมาน อาเจียนเป็นเลือด ก็อาจอยู่ได้ 2-5 ปี (ประมาณ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยอาจอยู่ได้เกิน 5 ปี)
ภาวะแทรกซ้อน
ผู้ป่วยตับแข็งมักมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เป็นโรคติดเชื้อได้ง่าย เช่น ปอดอักเสบ วัณโรคปอด
ในระยะท้ายของโรค ผู้ป่วยมักมีหลอดเลือดขอดที่หลอดอาหาร ซึ่งมีโอกาสปริแตก อาเจียนเป็นเลือดรุนแรง อาจถึงช็อกและเสียชีวิตได้ นอกจากนี้มักเกิดภาวะตับวาย (ตับทำงานไม่ได้) ทำให้มีอาการทางสมอง เช่น ซึม เพ้อ หมดสติ
นอกจากนี้ ยังพบว่ามีโอกาสเป็นมะเร็งตับสูงกว่าคนปกติ
การแยกโรค
อาการอ่อนเพลีย เบื่ออาหาร ดีซ่าน อาจเกิดจากโรคตับอักเสบจากไวรัสชนิดเฉียบพลันและชนิดเรื้อรัง ซึ่งมักจะแยกจากโรคตับแข็งได้ค่อนข้างยาก อาจจำเป็นต้องอาศัยการตรวจทางห้องปฏิบัติการในการวินิจฉัย
อาการน้ำหนักลดและท้องบวม (ท้องมาน) อาจเกิดจากมะเร็งตับ มะเร็งของอวัยวะอื่นๆ ในช่องท้อง (เช่น รังไข่ กระเพาะอาหาร)
- อ่าน 12,501 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้