เบาหวาน
มีอาการหิวน้ำ, หิวข้าวบ่อย, ปัสสาวะบ่อย. ถ้าเป็นน้อยไม่มีอาการ ต้องตรวจน้ำตาลในเลือดจึงรู้แน่. ผู้ที่มีกรรมพันธุ์เป็นเบาหวาน ควรตรวจเช็กระดับน้ำตาลในเลือดเป็นระยะๆ.
โรคนี้เป็นตลอดชีวิต หากไม่รักษาจริงจังมักมีโรคแทรก เช่น โรคหัวใจ, อัมพาต, ไตพิการ, ตามัวตาบอด, ชามือ ชาเท้า, แผลหายยาก, เท้าและขาเน่า (อาจต้องตัดนิ้วหรือขาทิ้ง), เกิดโรคติดเชื้อได้ง่าย.
ถ้าเป็นเบาหวาน ควรปฏิบัติตัวดังนี้
-
กินยาหรือฉีดยาสม่ำเสมอตามหมอสั่ง, อย่าหยุดยา ลดยา หรือเพิ่มยาด้วยตนเอง ยกเว้นตามหมอสั่ง หรือเมื่อมีอาการดังนี้
- ถ้าคลื่นไส้ อาเจียน หรือกินอะไรไม่ได้เลย ให้หยุดยาไว้ก่อน.
- ถ้าหิวบ่อย, อ้วนขึ้น, หรือใจหวิวใจสั่น, หน้ามืดตาลาย, เหงื่อแตก, เป็นลม ให้ลดยาลง.
- ถ้าปัสสาวะบ่อยขึ้น อ่อนเพลีย ผอมลง ให้เพิ่มยาขึ้น. หลังหยุดยา ลดยา หรือเพิ่มยาแล้ว ควรไปหาหมอ.
- ตรวจเลือดหรือปัสสาวะเป็นประจำ, โรคนี้จะสังเกตจากอาการเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูระดับน้ำตาลใน เลือดเป็นหลัก.
- ลดน้ำหนักถ้าอ้วน. ถ้าใช้ยาเบาหวานแล้วอ้วนขึ้น มักแสดงว่าใช้ยามากเกินไป ทำให้หิวและกินมากขึ้น.
- ลดอาหารพวกไขมัน, แป้ง, น้ำตาล, ของหวาน, ผลไม้หวาน.
- กินอาหารพวกโปรตีน (เนื้อแดง, นม, ไข่, ถั่วต่างๆ) ตามปกติ ยกเว้นถ้าไตพิการ.
- กินผักและผลไม้ที่ไม่หวานให้มากๆ.
- ออกกำลังกายเป็นประจำ.
- เลิกบุหรี่โดยเด็ดขาด.
-
หมั่นดูแลรักษาเท้า ระวังอย่าให้เกิดแผลหรืออักเสบ เช่นล้างให้สะอาด, เช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะซอกเท้า อย่าถูแรง.
- ล้างให้สะอาด, เช็ดให้แห้ง โดยเฉพาะซอกเท้า อย่าถูแรง.
- ควรตัดเล็บเท้าออกในแนวตรง, อย่าตัดโค้ง หรือตัดถูกเนื้อ.
- เวลาออกนอกบ้านหรือเดินบนที่สกปรก, ควรสวมรองเท้าที่หุ้มรอบเท้า (เช่น รองเท้าผ้าใบ).
- ระวังอย่าให้เท้าถูกของร้อน เช่น อย่าเดินเท้าเปล่าในครัว หรือบนพื้นถนนร้อนๆ อย่าใช้น้ำร้อนประคบเท้า อย่าสวมรองเท้าคับไป หรือใส่ถุงเท้ารัดแน่นเกินไป.
- อย่าแกะหรือตัดหูดหรือตาปลาที่เท้าเอง ควรให้หมอรักษา.
- ถ้าเป็นตุ่มพอง บาดแผล หรือการอักเสบที่เท้า รีบไปหาหมอ.
- ถ้ากินยาหรือฉีดยาเบาหวานแล้วมีอาการใจหวิว, ใจสั่น, หน้ามืด, ตาลาย, เหงื่อแตก หรือรู้สึกจะเป็นลม ให้รีบกินน้ำหวาน น้ำตาลหรือของหวาน. ถ้าหมดสติหรือชัก ควรส่งไปรักษาที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อฉีดกลูโคส เข้าหลอดเลือด.
- อ่าน 7,235 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้