Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » ดูแลสุขภาพด้วยตนเอง » ข้อมูลโรคและการรักษา » โรคพิษสุนัขบ้า

โรคพิษสุนัขบ้า

  • อาการ
  • สาเหตุ
  • การรักษา
  • การดูแลตนเอง
  • อื่นๆ

หากมีอาการสงสัยว่าเป็นโรคพิษสุนัขบ้า ควรรีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลโดยเร็ว

การป้องกัน

1. ผู้ที่ถูกสุนัข แมว ค้างคาว สัตว์ป่า สัตว์แทะ หรือปศุสัตว์ กัด ข่วน หรือเลีย ควรปฏิบัติดังนี้

  1. ทำการฟอกล้างบาดแผลด้วยน้ำสะอาด (เช่น น้ำก๊อก น้ำขวด น้ำต้มสุก) กับสบู่ทันที ควรฟอกล้างหลายๆ ครั้ง ซึ่งจะช่วยลดปริมาณเชื้อพิษสุนัขบ้าที่บาดแผล แล้วใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน หรือแอลกอฮอล์ชนิด 70%
  2. ถ้ามีเลือดออกซิบๆ หรือออกไม่หยุด ควรใช้ผ้าก๊อซ หรือผ้าสะอาดปิดแผล และใช้แรงกดปากแผลเพื่อห้ามเลือด
  3. ควรรีบไปที่สถานพยาบาลใกล้บ้านโดยเร็ว เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปและปรึกษาถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีนและ อิมมูนโกลบูลินป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
  4. ควรกักขังหรือเฝ้าดูอาการสัตว์ที่ก่อเหตุนาน 10 วัน ในกรณีที่สัตว์นั้นจับตัวหรือหาตัวได้ยาก เช่น สัตว์ป่า หนู ค้างคาว สุนัข หรือแมวจรจัดที่อาจหนีหายไป ถ้าเป็นไปได้ควรหาทางกำจัดแล้วนำซากสัตว์ส่งตรวจ ถ้าเป็นไปไม่ได้ก็ควรรีบแจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อพิจารณาฉีดยาป้องกัน

ทั้งนี้ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะควรฉีดยาป้องกันให้ครบถ้วนตามแพทย์สั่ง ส่วนยาที่ฉีดแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาว่าจะใช้ชนิดใด ขนาดเท่าใด และวิธีการฉีด โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับสภาพของผู้ป่วยเป็นรายๆ ไป

โดยทั่วไป แพทย์จะมีแนวทางการฉีดยาป้องกันแก่ผู้สัมผัสโรคพิษสุนัขบ้า ดังนี้

  1. ผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หรือเคยฉีดน้อยกว่า 3 ครั้ง หรือวัคซีนที่เคยรับเป็นวัคซีนสมองสัตว์ ให้พิจารณาความเสี่ยงของการสัมผัสโรค
    1. ถ้ามีความเสี่ยงที่ระดับ 2 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (หยุดฉีดวัคซีนเมื่อสัตว์ (เฉพาะสุนัขและแมว) เป็นปกติตลอดระยะเวลากักขังเพื่อดูอาการ 10 วัน) ไม่ต้องฉีดอิมมูนโกลบูลิน
    2. ถ้ามีความเสี่ยงที่ระดับ 3 ฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า (หยุดฉีดวัคซีนเมื่อสัตว์ (เฉพาะสุนัขและแมว) เป็นปกติตลอดระยะเวลากักขังเพื่อดูอาการ 10 วัน) และอิมมูนโกลบูลิน
  2. ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนป้องกันล่วงหน้า (pre-exposure) ครบชุด หรือเคยฉีดวัคซีนแบบหลังสัมผัสโรคอย่างน้อย 3 ครั้ง ไม่ต้องฉีดอิมมูนโกลบูลิน ควรฉีดวัคซีนดังนี้
    • ถ้าเคยได้รับวัคซีนมาก่อนเกิน 6 เดือน ให้ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามหรือในชั้นผิวหนัง 2 ครั้ง ในวันที่ 0 และ 3
    • ถ้าเคยได้รับวัคซีนมาก่อนภายใน 6 เดือน ให้ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามหรือในชั้นผิวหนัง 1 ครั้ง
  3. ในการฉีดวัคซีน ถ้าผู้ป่วยมารับการฉีดไม่ครบ ให้ฉีดวัคซีนโดยนับต่อจากเข็มสุดท้ายที่ผู้ป่วยได้รับ ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด

2. ผู้ที่เลี้ยงสุนัขและแมว ควรฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าแก่สัตว์ที่เลี้ยงทุกตัว เมื่ออายุได้ 12 สัปดาห์ (ถ้าฉีดก่อนควรฉีดซ้ำเมื่ออายุ 12 สัปดาห์) และ 24 สัปดาห์ และต่อไปฉีดกระตุ้นปีละครั้งอย่างต่อเนื่อง

3. ผู้ที่ทำงานที่เสี่ยงต่อโรคนี้ เช่น สัตวแพทย์ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสัตว์ แพทย์ และพยาบาลที่มีโอกาสพบผู้ป่วยโรคพิษสุนัขบ้าบ่อย เจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการที่ทำงานเกี่ยวกับโรคพิษสุนัขบ้า เด็กที่ชอบเล่นกับสุนัข เป็นต้น ควรฉีดวัคซีนป้องกันไว้ล่วงหน้าให้ครบ 3 เข็ม

  • อ่าน 7,382 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

372-011
นิตยสารหมอชาวบ้าน 372
เมษายน 2010
สารานุกรมทันโรค
Skip to Top

คุณไม่สบายตรงไหน

  • ศีรษะหู ตา คอ จมูก ปาก
  • ลำตัวท้อง แขน มือ อวัยวะภายใน
  • ลำตัวส่วนล่างอวัยวะเพศ ขา เท้า
  • อาการทั่วไป ไข้หวัด ผิวหนัง ฯลฯ

ข้อมูลสุขภาพ

  • โรค
  • ยา
  • สมุนไพร
  • ปฐมพยาบาล
Doctor Me

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)
Appstore
GooglePlay

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบัน ChangeFusion พัฒนาระบบโดย Opendream สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa