หลอดเลือดอัณฑะขอด
ส่วนมากจะไม่มีอาการแสดง อาจตรวจพบขณะไปปรึกษาแพทย์เรื่องมีบุตรยาก
บางรายอาจมีอาการปวดหน่วงๆที่อัณฑะ หลังออกกำลังกายหรือหลังจากทำงานมาตลอดวัน (จึงมักมีอาการในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ) และอาการปวดมักทุเลาเมื่อนอนราบ
ในรายที่เป็นมาก อาจสังเกตเห็นถุงอัณฑะโตข้างหนึ่ง คลำดูตรงสายรั้งอัณฑะ (อยู่ด้านหลังของถุงอัณฑะ) จะมีลักษณะเป็นลำ หยุ่นๆ นุ่มๆ
การดำเนินโรค
ส่วนใหญ่ไม่มีอันตรายใดๆ ไปจนตลอดชีวิต (ซึ่งไม่จำเป็นต้องให้การรักษาแต่อย่างใด)
ในรายที่อัณฑะฝ่อหรือเป็นหมัน หลังผ่าตัดจะช่วยให้มีบุตรได้
ภาวะแทรกซ้อน
ถ้าไม่ได้รับการแก้ไข และปล่อยทิ้งนานๆ อาจทำให้อัณฑะฝ่อ และมีบุตรยาก
การแยกโรค
อาการปวดอัณฑะหรือถุงอัณฑะโตกว่าปกติ อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น
- อัณฑะบิดตัว จะมีอาการปวดอัณฑะอย่างรุนแรงและเกิดขึ้นฉับพลัน อัณฑะบวมและแตะถูกเจ็บ ถือว่าเป็นภาวะร้ายแรงที่ต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
- อัณฑะอักเสบ อัณฑะมีลักษณะปวดบวมแดงร้อน และอาจมีไข้ร่วมด้วย
- ไส้เลื่อน มักมีอาการมีก้อนบวมที่อัณฑะเวลายืน นั่ง หรือไอ และยุบหายเวลานอนราบ โดยไม่มีอาการเจ็บปวด ก้อนคลำดูมีลักษณะนุ่ม ไม่เจ็บ
- กล่อนน้ำ (hydrocele) หมายถึงการเกิดเป็นถุงน้ำภายในถุงอัณฑะ มีลักษณะเป็นก้อนนุ่มที่ถุงอัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง โดยไม่ยุบหายไม่ว่าจะอยู่ในท่าใด โดยไม่มีอาการเจ็บปวดแต่อย่างใด
- มะเร็งอัณฑะ มีอาการเป็นก้อนแข็งที่อัณฑะข้างหนึ่ง ไม่เจ็บ แต่โตเร็ว
- อ่าน 10,019 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้