ถุงลมปอดโป่งพอง
แพทย์จะให้การรักษาตามความรุนแรงของโรค
โดยทั่วไปจะให้ยาขยายหลอดลมชนิดสูดพ่น เวลามีอาการหายใจเหนื่อยหรือมีเสียงดังวี้ด ในรายที่เป็นมากอาจให้ยาสตีรอยด์ชนิดสูดพ่นร่วมด้วย
ในรายที่มีการติดเชื้อแทรกซ้อน เช่น มีไข้ ไอ มีเสมหะเหลืองหรือเขียว ก็จะให้ยาปฏิชีวนะ (เช่น อะม็อกซีซิลลิน อีริโทรไมซิน) นาน 7-10 วัน
ในรายที่มีอาการหอบรุนแรง ปอดอักเสบ หรือภาวะแทรกซ้อน (เช่น ปอดทะลุ หัวใจล้มเหลว) แพทย์ก็จะรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล อาจต้องให้ออกซิเจน ใส่ท่อหายใจ และใช้เครื่องช่วยหายใจ
ในระยะรุนแรง ผู้ป่วยมักมีภาวะการหายใจล้มเหลวเรื้อรังร่วมด้วย และอาจมีภาวะหัวใจล้มเหลวแทรกซ้อน (มีอาการหอบเหนื่อย เท้าบวม)
นอกจากนี้ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ปอดทะลุ (จากการที่ถุงลมแตก) ไอออกเป็นเลือด (จากการอักเสบของหลอดลม) ไส้เลื่อนกำเริบ (เนื่องจากอาการไอเรื้อรัง) เป็นต้น
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยเบื้องต้นจากประวัติและอาการแสดงของผู้ป่วย (ไอเรื้อรัง หอบเหนื่อยง่าย มีประวัติสูบบุหรี่จัดมานาน 10-20 ปี) และยืนยันการวินิจฉัย ด้วยการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น เอกซเรย์ปอด ตรวจเสมหะ ทดสอบสมรรถภาพของปอด ตรวจเลือด (วัดระดับออกซิเจน และคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือด) ตรวจคลื่นหัวใจ เป็นต้น
- อ่าน 24,486 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้