Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » ดูแลสุขภาพด้วยตนเอง » ข้อมูลโรคและการรักษา » โลหิตจาง จากภาวะขาดธาตุเหล็ก

โลหิตจาง จากภาวะขาดธาตุเหล็ก

  • อาการ
  • สาเหตุ
  • การรักษา
  • การดูแลตนเอง
  • อื่นๆ

เมื่อมีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และพบว่ามีภาวะซีด (หน้าซีด เยื่อบุเปลือกตาและริมฝีปากซีด) โดยที่ไม่มีไข้ ตาเหลืองตัวเหลือง จุดแดงจ้ำเขียว บวม ไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ ไม่ได้ซีดเหลืองเรื้อรังมาตั้งแต่เล็ก (หรือเป็นโรคทาลัสซีเมีย) อาจให้การรักษาเบื้องต้น ด้วยการกินยาบำรุงโลหิต เช่น ยาเม็ดเฟอร์รัสฟูมาเรต ครั้งละ 1-2 เม็ด หลังอาหาร วันละ 2-3 ครั้ง (ยานี้กินแล้วอาจทำให้มีอาการถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีของธาตุเหล็กได้ ไม่ถือว่าผิดปกติ แต่ถ้ามีอาการถ่ายอุจจาระเป็นสีดำก่อนกินยานี้และไม่ได้กินเลือดหมู ตับหมู ก็พึงสงสัยว่าอาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้ามีประวัติกินยาแก้ปวดข้อ หากสงสัยควรรีบไปพบแพทย์)

หลังกินยา 7-10 วัน แล้วรู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้น และหน้าตามีเลือดฝาดดีขึ้น ก็แสดงว่ากินยาได้ผล ก็ควรกินยานี้วันละ 1-2 เม็ด ต่อไปอีก 3-6 เดือน

ควรปรึกษาแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้

  • มีไข้ ตาเหลืองตัวเหลือง จุดแดงจ้ำเขียว หรือเท้าบวม
  • มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไต เป็นต้น
  • มีอาการผิดปกติ เช่น ไอเรื้อรัง ท้องเดินเรื้อรัง น้ำหนักลด จุกแน่นหรือแสบท้อง ถ่ายอุจจาระเป็นสีดำ ถ่ายเป็นเลือดสด ใจหวิวใจสั่น เป็นต้น
  • มีอาการซีดเหลืองเรื้อรังมาตั้งแต่เล็ก หรือมีประวัติเป็นโรคทาลัสซีเมีย
  • กินยาบำรุงโลหิต 7-10 วันแล้วยังไม่ทุเลา

การป้องกัน

โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก เช่น เนื้อสัตว์ ตับหมู ตับวัว เลือดหมู ไตหมู นม ไข่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ ทารกและวัยรุ่น ควรบำรุงอาหารเหล่านี้ให้มากๆ

สำหรับผู้ที่กินอาหารมังสวิรัติหรือชีวจิต หรือผู้สูงอายุที่กินเนื้อและนมได้น้อย ควรตรวจเช็กเลือดดูว่ามีภาวะโลหิตจางหรือไม่ ถ้าพบควรกินยาบำรุงโลหิตเสริมเป็นประจำ

สำหรับหญิงวัยเจริญพันธุ์ (อายุ 15-45 ปี) ที่มีภาวะซีดเนื่องจากการเสียธาตุเหล็กออกไปทางเลือดประจำเดือน ควรให้กินยาบำรุงโลหิตวันละ 2-3 เม็ดในช่วงมีประจำเดือน นานประมาณ 1 สัปดาห์ เป็นประจำทุกเดือน

  • อ่าน 18,066 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คุณไม่สบายตรงไหน

  • ศีรษะหู ตา คอ จมูก ปาก
  • ลำตัวท้อง แขน มือ อวัยวะภายใน
  • ลำตัวส่วนล่างอวัยวะเพศ ขา เท้า
  • อาการทั่วไป ไข้หวัด ผิวหนัง ฯลฯ

ข้อมูลสุขภาพ

  • โรค
  • ยา
  • สมุนไพร
  • ปฐมพยาบาล
Doctor Me

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)
Appstore
GooglePlay

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <