ผึ้งต่อย ต่อต่อย
-
ในรายที่เป็นเพียงเล็กน้อยเฉพาะที่ โดยไม่มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ให้ทำการปฐมพยาบาล ดังนี้
- ถ้าพบว่ามีเหล็กในฝังอยู่ ให้รีบเอาเหล็กในออกทันที โดยใช้สันมีด หรือขอบบัตรพลาสติก (เช่น บัตรเติมเงินโทรศัพท์) ขูดออก หรือใช้เทปเหนียวอย่างใส (สกอตเทป) ปิดทาบบริเวณที่ถูกต่อย แล้วดึงออก หลังจากนั้นทำความสะอาดบาดแผลด้วย น้ำกับสบู่
- ใช้น้ำแข็งหรือน้ำเย็นประคบบริเวณที่ถูกต่อย นาน 20 นาที จะช่วยลดอาการปวดและบวมได้ ควรทำซ้ำทุกชั่วโมงจนกว่าจะทุเลา
- ถ้าปวดมาก กินยาพาราเซตามอลบรรเทา
- ถ้ามีอาการคัน ให้กินยาแก้แพ้ เช่น คลอร์เฟนิรามีน ครั้งละครึ่งถึง 1 เม็ด ทุก 6-8 ชั่วโมง และทาครีมสตีรอยด์
-
ควรรีบไปพบแพทย์ ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
- อาการปวด บวม แดง คัน ไม่ยุบภายใน 6 ชั่วโมง
- แผลบวมขึ้นเรื่อยๆ หรือมีอาการปวดมาก
- เป็นลมพิษทั่วตัว หรือริมฝีปากบวม หนังตาบวม
- มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน หรือเจ็บแน่นหน้าอก
- หายใจลำบาก หายใจมีเสียงดังวี้ด หรือมีอาการเป็นลม
- ถูกต่อยที่ลิ้น หรือภายในช่องปาก หรือที่ตา
- ถูกผึ้งหรือต่อรุมต่อยจำนวนมาก
- เคยมีประวัติถูกผึ้งหรือต่อต่อยมาก่อน เคยมีอาการแพ้แมลงพวกนี้มาก่อน หรือเป็นคนที่แพ้อะไรง่าย
- มีอาการผิดปกติ (เช่น ไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย ปวดข้อ ตามัว ซีด จ้ำเขียวตามตัว เป็นต้น) เกิดขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หลังถูกต่อย
- มีความวิตกกังวล หรือไม่แน่ใจที่จะดูแลตนเอง
การป้องกัน
- กำจัดขยะและเศษอาหารบริเวณบ้าน เพื่อไม่ให้มีแมลงพวกนี้มาตอม
- กรณีที่ต้องเดินทางเข้าไปในที่ที่มีแมลงพวกนี้ชุกชุม หรือออกไปกลางแจ้ง ไม่ควรใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาด ลายดอกไม้ หรือใส่น้ำหอม ซึ่งล่อให้ผึ้งหรือต่อมาต่อยได้
- อย่าแหย่หรือทำลายรังผึ้ง และเตือนเด็กๆ อย่าไปแหย่รังผึ้งหรือรังต่อด้วยความคะนอง
- ถ้ามีรังผึ้งหรือรังต่อ ภายในบริเวณบ้าน ควรตามผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมากำจัดรังแทน
- สำหรับผู้ที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการถูกผึ้งหรือต่อต่อย (เช่น พนักงานป่าไม้ นักเดินป่า ลูกเสือเวลาออกค่าย เป็นต้น) ควรมีชุดปฐมพยาบาล (เช่น ยาฉีดอะดรีนาลิน ยาแก้แพ้ ครีมสตีรอยด์ เป็นต้น) ไว้ปฐมพยาบาลเมื่อถูกผึ้งหรือต่อต่อย
- ถ้าถูกผึ้งหรือต่อต่อย ควรวิ่งหนีโดยเร็วที่สุด ให้ห่างจากรังเกิน 7 เมตรขึ้นไป และควรใช้ผ้าคลุมศีรษะป้องกันไม่ให้ตัวต่อติดอยู่ในผมซึ่งจะต่อยซ้ำๆ ได้
- อ่าน 31,736 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้