กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
เมื่อมีอาการขัดเบาซึ่งสงสัยเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบควรปฏิบัติตัว ดังนี้
- ดื่มน้ำมากๆ วันละ 3-4 ลิตร (เฉลี่ยประมาณชั่วโมงละ 1 แก้ว) แล้วถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวด น้ำจะช่วยขับเชื้อโรคออก และช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนเวลาปัสสาวะ
- ถ้าอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน จึงค่อยกินยาปฏิชีวนะ การใช้ยาปฏิชีวนะควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อน โดยทั่วไปถ้าไม่เคยแพ้ยา มักจะแนะนำให้กินยาเม็ดอะม็อกซีซิลลิน (ขนาด 500 มิลลิกรัม) หรือยาเม็ดโคไตรม็อกซาโซล วันละ 2 ครั้ง ทุก 12 ชั่วโมง ผู้ใหญ่กินครั้งละ 2 เม็ด เด็กโตครั้งละ 1 เม็ด ถ้ารู้สึกดีขึ้น ควรกินให้ครบ 3 วัน เป็นอย่างน้อย
- เมื่อรักษาหายแล้ว ต่อไปต้องพยายามอย่าอั้นปัสสาวะเป็นอันขาด มิเช่นนั้นอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบก็จะกลับมาเป็นได้อีก
-
ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ เมื่อมีลักษณะข้อใด ข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- มีอาการไข้ หนองไหล ตกขาว ถ่ายเป็นเลือด หรือกระหายน้ำบ่อยร่วมด้วย
- ดูแลตัวเอง 2-3 วัน แล้วยังไม่ดีขึ้น
- เป็นๆ หายๆ บ่อย
- มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลรักษาตนเอง
- ผู้ชายทุกคนที่มีอาการขัดเบา แม้ว่าจะเริ่มเป็นครั้งแรก ก็ควรไปปรึกษาแพทย์ เพื่อค้นหาสาเหตุให้แน่ใจ เนื่องจากสรีระของผู้ชายมีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบน้อยมาก ถ้ามีอาการอาจมีโรคอื่นซ่อนเร้นอยู่
การป้องกัน
- พยายามดื่มน้ำให้เพียงพอ และอย่าอั้นปัสสาวะ ควรฝึกถ่ายปัสสาวะทุกครั้งที่รู้สึกปวดจนเป็นนิสัย เวลาเดินทางไกลต้องฝึกให้เคยชินที่จะเข้าห้องน้ำนอกบ้าน ถ้ากลัวไม่สะอาดก็ชำระล้างโถส้วมให้สะอาดเสียก่อน เวลาเข้านอน ถ้าไม่สะดวกจะลุกเข้าห้องน้ำ ควรเตรียมกระโถนไว้ข้างเตียง
- หลังถ่ายอุจจาระ ควรชำระทวารหนักให้สะอาด การใช้กระดาษชำระควรเช็ดจากข้างหน้าไปข้างหลังจนสะอาด เพื่อป้องกันมิให้นำเชื้อโรคจากบริเวณทวารหนักแปดเปื้อนเข้าท่อปัสสาวะ
- อ่าน 15,545 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้