เข่าเสื่อม
เมื่อมีอาการปวดเข่าให้ดูแลตัวเองเบื้องต้น ดังนี้
- หลีกเลี่ยงท่าที่ทำให้ปวดเข่าได้แก่ การนั่งงอเข่า เช่น นั่งยองๆ นั่งสมาธิ นั่งพับเพียบ เป็นต้น ควรนั่งเก้าอี้ แทนการนั่งพื้น
- หลีกเลี่ยงการเดินขึ้นบันได ถ้าปวดเข่าข้างเดียว เวลาเดินขึ้นบันได ให้เดินขึ้นทีละขั้น โดยก้าวขาข้างดี (ไม่ปวด) ขึ้นก่อน แล้วยกขาข้างที่ปวดขึ้นตามไปวางบนขั้นที่ขาดีวางอยู่ (อย่าก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่ง) ส่วนขาลงบันได ก็ก้าวขาข้างที่ปวดลงก่อน แล้วก้าวขาดีตาม การเดินขึ้น-ลงบันไดทีละขั้นแบบนี้ ขาข้างที่ปวด จะไม่มีการงอเข่า จึงลดการปวดลงได้
- ควรเปลี่ยนอิริยาบถจากนั่งเป็นยืน และจากยืนเป็นนั่งสลับก่อนบ่อยๆ เข้าจะได้ไม่ติดขัดมาก
- ถ้าปวดเข่ามากประคบด้วยผ้าชุบน้ำร้อน หรือลูกประคบและกินยาพาราเซตามอล ครั้งละ 1-2 เม็ด บรรเทาปวด ซ้ำได้ทุก 6 ชั่วโมง
- ถ้าเดินแล้วรู้สึกปวดเข่า หรือเข่าทรุด ควรใช้ไม้เท้าช่วยหรือมีราวเกาะ
- ถ้าน้ำหนักมากควรหาทางลดน้ำหนักโดยการควบคุมอาหารและออกกำลังกายให้มากขึ้น (เช่น เดินเร็ว ปั่นจักรยาน วิ่งเหยาะๆ)
- เมื่ออาการปวดเข่าทุเลาแล้วควรบริหารกล้ามเนื้อเข่าอย่างสม่ำเสมอ เริ่มแรกไม่ต้องถ่วงน้ำหนัก ต่อไปค่อยๆ ถ่วงน้ำหนัก (เช่น ใส่ถุงทราย หรือขวดน้ำใส่ในถุงพลาสติก) ที่ปลายเท้า เริ่มจาก 0.3 กิโลกรัม เป็น 0.5 กิโลกรัม, 0.7 กิโลกรัม และ 1 กิโลกรัม โดยเพิ่มไปเรื่อยๆ ทุก 2-3 สัปดาห์ จนยกได้ 2-3 กิโลกรัม ข้อเข่าก็จะแข็งแรง และลดอาการปวด
- ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาชุด หรือยาลูกกลอน ยาเหล่านี้แม้ว่าอาจจะช่วยบรรเทาปวดได้ดีแต่มักมีตัวยาอันตราย (เช่น สตีรอยด์) ผสม ซึ่งก่อให้เกิดผลร้ายแรงตามมาได้
ควรไปพบแพทย์ เมื่อมีลักษณะข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้
- มีไข้
- ข้อเข่าบวม หรือมีลักษณะแดงร้อน
- สงสัยเป็นโรคเกาต์ ไข้รูมาติก หรือโรคอื่นๆ
- ดูแลตนเอง 1-2 สัปดาห์แล้วยังไม่ทุเลา
- มีความวิตกกังวล หรือไม่มั่นใจที่จะดูแลรักษาตนเอง
การป้องกัน
- ระวังอย่าให้น้ำหนักตัวมากเกิน ด้วยการควบคุมอาหารที่บริโภค และออกกำลังกายเป็นประจำ
- หลีกเลี่ยงการนั่งงอเข่า การเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อย
- อ่าน 17,513 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้