ไมเกรน
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดศีรษะเป็นครั้งคราว มักจะเริ่มเป็นครั้งแรกตั้งแต่อายุน้อย (วัยรุ่น หรือวัยหนุ่มสาว) และจะเป็นๆหายๆ จนเลยวัย 55 ปี หรือตลอดชีวิต
แต่ละครั้ง จะมีอาการปวดตุบๆ ที่ขมับ หรือรอบๆ เบ้าตาซีกใดซีกหนึ่ง อาจปวดสลับข้างในแต่ละคราว หรือปวดพร้อมกันทั้ง 2 ข้างก็ได้ ผู้ป่วยมักจะคลำได้หลอดเลือดที่บริเวณขมับมีลักษณะโป่งพองและเต้นตุบๆ บางคนอาจปวดแบบตื้อๆ ทั้งศีรษะ หรืออาจมีอาการเวียนศีรษะ กลัวแสง ปวดเสียวหนังศีรษะ บางรายก่อนปวดหรือขณะปวด อาจมีอาการตาพร่า ตาลาย ตาเห็นแสงวอบแวบ หรือมืดมัวไปครึ่งซีก แต่ละครั้งมักปวดนาน 4-72 ชั่วโมง แต่ถ้าได้กินยาบรรเทาปวด และนอนหลับสักครู่ ก็อาจทำให้อาการทุเลาได้เร็วขึ้น บางรายที่มีอาการปวดมากหรือปวดนาน ก่อนจะทุเลาอาจมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เมื่ออาเจียนแล้วอาการปวดจะทุเลาไปได้เอง ในรายที่เป็นไมเกรนชนิดรุนแรง ก็อาจมีอาการ หน้าชา ริมฝีปากชา มือชา วิงเวียน ตาเห็นภาพซ้อน หรือแขนขาอ่อนแรงซีกหนึ่ง แต่อาการแบบนี้พบได้น้อยมาก และมักเป็นเพียงชั่วคราวก็จะหายได้เอง
การดำเนินโรค
โรคนี้มักมีอาการอยู่นาน 4-72 ชั่วโมงแล้วสามารถทุเลาได้เอง แต่มักจะเป็นๆ หายๆ เป็นครั้งคราวเมื่อมีเหตุกำเริบหรือสิ่งกระตุ้น ผู้ป่วยส่วนหนึ่งอาจหายขาดเมื่อพ้นอายุ 55 ปีไปแล้ว แต่ส่วนหนึ่งอาจมีอาการกำเริบได้เรื่อยๆ ตลอดชีวิต
ภาวะแทรกซ้อน
ผู้ป่วยไมเกรนส่วนใหญ่จะไม่มีภาวะแทรกซ้อนหรืออันตรายใดๆ ทั้งสิ้นยกเว้นในรายที่เป็นไมเกรนชนิดรุนแรงที่มีการอ่อนแรงของแขนขา บางครั้งอาจมีอาการหยุดหายใจ เนื่องเพราะกล้ามเนื้อหายใจอ่อนแรง ก็อาจต้องรีบช่วยผายปอด แล้วนำส่งโรงพยาบาลทันที ผู้ป่วยมักจะฟื้นคืนสู่สภาวะปกติได้ภายในไม่กี่วัน
การแยกโรค
อาการปวดศีรษะ นอกจากไมเกรนแล้ว ยังอาจมีสาเหตุอื่นๆ เช่น
- ปวดศีรษะจากความเครียด จะมีอาการปวด ตื้อๆ มึนๆ ทั่วศีรษะ หรือบริเวณท้ายทอยนานเป็น ชั่วโมงๆ หรือเป็นวันๆ เมื่อนอนหลับพักผ่อนแล้วก็ดีขึ้น (แต่บางคนอาจเป็นติดต่อกันนานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนก็ได้) โดยไม่มีอาการตาพร่า หรือคลื่นไส้อาเจียน ผู้ป่วยอาจมีอาการวิตกกังวล คิดมาก ซึมเศร้า นอนไม่หลับร่วมด้วย
- สายตาผิดปกติ จะมีอาการปวดเมื่อยล้ารอบๆ กระบอกตา เวลาเพ่งมองอะไรนานๆ อาจพบว่ามีภาวะสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงร่วมด้วย
- ไซนัสอักเสบ จะมีอาการปวดตื้อๆ ตรงหัวคิ้วรอบๆ กระบอกตา หรือใต้ตา (โหนกแก้ม) ร่วมกับ อาการเป็นหวัด คัดจมูก มีน้ำมูกหรือเสลดข้นเหลืองหรือเขียว เมื่อใช้นิ้วเคาะบริเวณที่ปวดตื้อๆ จะรู้สึกเจ็บมากขึ้น
- ความดันเลือดสูง ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะไม่มีอาการผิดปกติ มักตรวจพบโดยบังเอิญจากการตรวจเช็กร่างกาย แต่ส่วนน้อยที่เป็นความดันเลือดสูงรุนแรง ก็อาจมีอาการปวดตุบๆ ที่ขมับ หรือปวดตื้อๆ ทั่วศีรษะหรือท้ายทอย มักจะเป็นเวลาตื่นนอนใหม่ๆ พอตอนสายจะทุเลาไปเอง มักพบในคนอายุมากกว่า 40 ปีขึ้น
- เนื้องอกสมอง จะมีอาการปวดมึนๆ ตื้อๆ ทั่วศีรษะตอนเช้ามืด ก่อนใกล้ตื่นนอน พอตอนสายๆ จะทุเลา ซึ่งจะเป็นอยู่ทุกวัน นานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน โดยจะมีอาการปวดแรงขึ้นและนานขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาจะมีอาการเวียนศีรษะ อาเจียน หรือเดินเซ โรคนี้พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
- ต้อหินเฉียบพลัน จะมีอาการปวดตาข้างหนึ่งอย่างรุนแรง ตาพร่ามัว ตรวจดูตาพบว่าตาแดง กระจกตาบวมขุ่น รูม่านตาโต มักพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี อาการปวดจะไม่ทุเลาจนกว่าจะได้รับการรักษา
ส่วนอาการแขนขาชา หรืออ่อนแรง ที่อาจพบได้ในผู้ป่วยไมเกรนชนิดรุนแรง ควรแยกออกจากโรคหลอดเลือดสมองตีบ ซึ่งจะมีอาการอัมพฤกษ์ อัมพาตเรื้อรัง (ส่วนไมเกรนมักจะเป็นอยู่เพียงไม่กี่วันก็หายได้เอง) ผู้ป่วยหลอดเลือดสมองตีบ มักพบในคนสูงอายุ หรือผู้ที่มีประวัติเป็นโรคเบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดสูง อ้วน หรือสูบบุหรี่จัด (ส่วนไมเกรนจะพบในคนอายุน้อย และไม่มีโรคประจำตัวอื่นๆ)
- อ่าน 14,432 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้