โรคซาร์ (SARS) : โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง : ปอดบวมมรณะ
ในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาโดยจำเพาะ แพทย์จะให้การรักษาไปตามอาการที่พบ เช่น ให้ยาพาราเซตามอลลดไข้แก้ปวด, ยาแก้ไอ ถ้าเป็นไปได้อาจจำเป็นต้องรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล เพื่อสังเกตอาการใกล้ชิดและแยกตัวไม่ให้แพร่เชื้อให้คนอื่น ส่วนในรายที่มีอาการหอบหายใจลำบาก จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจจนกว่าจะพ้นขีดอันตราย ในประเทศที่มีการระบาดได้มีการทดลองให้ยาต้านไวรัส (เช่น ribavirin) ร่วมกับยาสตีรอยด์ และบางรายอาจให้ยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมอาการปอดอักเสบ มีข้อสรุปว่าไม่ได้ผลเท่าที่ควร
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยขั้นต้นจากอาการเป็นไข้ ปวดเมื่อยมาก ร่วมกับการมีประวัติเดินทางจากประเทศที่มีการระบาดของโรคนี้ หรือสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นโรคนี้ ในรายที่แพทย์สงสัยว่าเป็นโรคนี้ ก็จะทำการตรวจเลือด และเอกซเรย์ปอด ร้อยละ 50 ของผู้ที่เป็นโรคปอดบวมมรณะ จะพบสิ่งผิดปกติจากการตรวจชันสูตรเพิ่มเติม เช่น พบว่ามีจำนวนเม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำกว่าปกติ, สารเอนไซม์ตับ (ที่เรียกว่า ALT, AST) สูงกว่าปกติ 2-6 เท่า, สาร creatine phospho-kinase สูงกว่าปกติ, ผลการเอกซเรย์ปอดพบร่องรอยของปอดอักเสบ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม อีกร้อยละ 50 ของคนไข้ ก็อาจตรวจไม่พบสิ่งผิดปกติดังกล่าวใดๆ ก็ได้
ล่าสุดหลังจากพบเชื้อไวรัสที่ก่อโรค นักวิทยาศาสตร์ได้คิดประดิษฐ์ชุดตรวจสำเร็จรูป สามารถตรวจหาร่องรอยของไวรัสซาร์สในเลือด น้ำลาย หรือเสมหะ ซึ่งมีความแม่นยำในการวินิจฉัยมากยิ่งขึ้นและทราบผลภายใน 6 ชั่วโมง
- อ่าน 25,890 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้