เส้นประสาทมือถูกบีบรัด
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนหรือรู้สึกชาเป็นพักๆ ที่มือ (โดยเฉพาะที่นิ้วหัวแม่มือ นิ้วชี้ นิ้วกลาง และซีกหนึ่งของนิ้วนางด้านที่ติดกับนิ้วกลาง) บางครั้งอาจปวดร้าวขึ้นไปที่แขนหรือหัวไหล่ อาการปวดมักจะเป็นมากตอนกลางคืนหรือตอนเช้ามืด จนบางครั้งอาจทำให้ผู้ป่วยสะดุ้งตื่น บางรายเมื่อได้ห้อยข้อมือตรงขอบเตียงหรือสะบัดมือจะรู้สึกทุเลาได้
การทำงานโดยใช้ข้อมือ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในท่างอข้อมือมากๆ หรือเร็วๆ เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน พิมพ์ดีด) งอข้อมือเร็วๆ อาจทำให้เกิดอาการปวดหรือชาได้ ถ้าเป็นมาก อาจทำให้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วอื่นๆ ชาและอ่อนแรงได้ อาการอาจเกิดที่มือข้างเดียว หรือ 2 ข้างก็ได้
ในรายที่เป็นระหว่างตั้งครรภ์ หลังคลอดอาการมักจะหายไปได้เอง
การดำเนินโรค
ถ้าเกิดจากภาวะที่เกิดขึ้นชั่วคราวหรือแก้ไขได้ เช่น ระยะก่อนมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ ภาวะขาดไทรอยด์ ความอ้วน เป็นต้น อาการก็มักจะเป็นอยู่ชั่วคราว และทุเลาได้เมื่อภาวะที่เป็นต้นเหตุได้หายไป
ผู้ป่วยที่มีอาการเล็กน้อยและปานกลาง การรักษาด้วยยาก็อาจทำให้ทุเลาได้
ส่วนในรายที่เป็นรุนแรง การผ่าตัดก็จะทำให้อาการทุเลาภายในเวลาไม่กี่วัน
ในรายที่เป็นรุนแรง และไม่ได้รับการผ่าตัดแก้ไข ปล่อยไว้เป็นแรมปี ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อมือฝ่อได้
ภาวะแทรกซ้อน
หากปล่อยให้เส้นประสาทมือถูกบีบรัดนานๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อมือฝ่อได้
การแยกโรค
อาการชาปลายมือ อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น
- โรคเหน็บชา ซึ่งเกิดจากการขาดวิตามินบี 1 รวมไปถึงคนยากจน คนที่ใช้แรงกายหนักและกินคาร์โบไฮเดรตมาก หรือคนที่ขาดอาหาร มักจะมีอาการชาปลายมือปลายเท้าทุกนิ้ว
- เบาหวาน ที่ปล่อยให้มีน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง (นาน 10 ปีขึ้นไป) ทำให้เส้นประสาทเสื่อม มีอาการชาปลายมือปลายเท้าทุกนิ้ว
- อ่าน 9,119 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้