เส้นประสาทมือถูกบีบรัด
แพทย์จะให้การรักษาตามความรุนแรงของโรค
- ถ้าเป็นเล็กน้อย แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยพักการใช้ข้อมือ (การทำงานในท่างอข้อมือ) และใช้ความเย็น (เช่น น้ำผสมน้ำแข็ง) ประคบวันละ 3-4 ครั้ง อาจทุเลาได้ภายใน 2-3 สัปดาห์
- ถ้าไม่ทุเลาหรือมีอาการมากขึ้น แพทย์อาจให้กินยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์ เช่น ไอบูโพรเฟน (ibuprofen) ครั้งละ 400 มก. วันละ 3-4 ครั้ง และใส่เฝือกที่มือเฉพาะเวลาเข้านอน หรือบางรายแพทย์อาจฉีดยาสตีรอยด์เข้าที่ข้อมือข้างที่ปวด เพื่อลดอาการอักเสบและบวมของเนื้อเยื่อในช่องท้องใต้กระดูกข้อมือ
- ถ้ามีภาวะอื่นร่วมด้วย เช่น เบาหวาน ภาวะพร่องไทรอยด์ โรคปวดข้อรูมาตอยด์ แพทย์ก็จะให้การรักษาโรคนี้ร่วมไปด้วย
- ถ้าการรักษาด้วยวิธีต่างๆ ดังกล่าวไม่ได้ผล หรือมีอาการรุนแรง ก็จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด โดยการตัดแผ่นพังผืดเหนียว (ที่บีบรัดเส้นประสาท) ให้คลายแรงบีบรัดลง ก็จะช่วยให้อาการทุเลาได้
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยจากลักษณะของโรคนี้ คือ มีอาการปวดหรือชาที่บริเวณ 3 นิ้วครึ่ง ได้แก่ นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลาง และนิ้วนางซีกที่ติดกับนิ้วกลาง
การกดหรือเคาะที่ข้อมือ (ตรงด้านเดียวกับฝ่ามือ) ข้างที่มีอาการ อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหรือชาที่ปลายมือได้
แพทย์อาจทำการทดสอบโดยให้ผู้ป่วยวางหลังมือ 2 ข้างชนกัน ในท่างอข้อมือให้มากที่สุด และนิ้วมือชี้ลงพื้นนาน 60 วินาที ผู้ที่เป็นโรคนี้อาจมีอาการปวดหรือชาปลายนิ้วมือ 3 นิ้วครึ่ง เรียกการทดสอบนี้ว่า “อาการฟาเลน (phalen’s sign)”
ภาพการทดสอบ Phanlen’s sign
บางครั้งแพทย์อาจทำการวินิจฉัยให้แน่ชัดโดยการตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ (Electromyography หรือ EMG)
- อ่าน 8,675 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้