งูสวัด
แพทย์จะให้การรักษาตามอาการ (เช่น ให้พาราเซตามอลบรรเทาอาการปวดหรือไข้) ถ้าตุ่มกลายเป็นหนองเฟะเนื่องจากการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน ก็จะให้ยาปฏิชีวนะ เช่น ไดคล็อกซาซิลลิน อีริโทรไมซิน เป็นต้น
สำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมากกว่า 50 ปี หรืองูสวัดขึ้นที่บริเวณหน้า หรือมีอาการปวดรุนแรงตั้งแต่แรกที่มีผื่นขึ้น แพทย์จะให้กินยาต้านไวรัส เช่น อะไซโคลเวียร์ (acyclovir) ครั้งละ 800 มก. วันละ 5 ครั้ง ทุก 4 ชั่วโมง (เว้นมื้อดึก 1 มื้อ) ซึ่งจะต้องเริ่มให้ภายใน 48 -72 ชั่วโมงหลังเกิดอาการจึงจะได้ผลในการลดความรุนแรง และย่นเวลาให้หายเร็วขึ้น รวมทั้งอาจลดอาการปวดเส้นประสาทแทรกซ้อนในภายหลังได้
สำหรับผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น เป็นโรคเอดส์) หรือเป็นชนิดแพร่กระจายทั้งตัว แพทย์จะรับตัวผู้ป่วยไว้รักษาในโรงพยาบาล และให้ยาต้านไวรัสชนิดฉีดเข้าหลอดเลือดดำ
สำหรับผู้ป่วยที่เป็นงูสวัดขึ้นที่ตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์ ซึ่งจะให้กินยาต้านไวรัส และยาหยอดตาที่เข้ายาต้านไวรัส เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางตา
การวินิจฉัย
แพทย์จะวินิจฉัยจากลักษณะอาการแสดงเป็นหลัก ได้แก่ อาการขึ้นเป็นผื่นแดงและตุ่มน้ำใสเรียงกันเป็นแนวยาว
- อ่าน 40,856 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้