คางทูม
แพทย์จะทำการวินิจฉัย โดยแยกออกจากสาเหตุอื่น ถ้าไม่แน่ใจว่าเป็นคางทูม อาจต้องทำการตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น ตรวจเลือด เอกซเรย์
ถ้าแน่ใจว่าเป็นคางทูม ก็จะให้การรักษาตามอาการและแนะนำการปฏิบัติในการดูแลตนเองดังกล่าว
ถ้าตรวจพบว่ามีโรคแทรกซ้อน ก็จะให้การรักษา เช่น ถ้าเป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ สมองอักเสบหรือตับอ่อนอักเสบ ก็จะรับตัวไว้รักษาในโรงพยาบาล ถ้าเป็นอัณฑะอักเสบ ก็จะให้ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สตีรอยด์ (เช่น ไอบูโพรเฟน) ประคบด้วยความเย็น บางครั้งอาจพิจารณาให้สตีรอยด์ (เช่น เพร็ดนิโซโลน) เพื่อลดการอักเสบที่รุนแรง
การวินิจฉัย
ส่วนใหญ่จะวินิจฉัยจากอาการของโรคเป็นสำคัญ ได้แก่ อาการไข้ และคางบวม ซึ่งจะบวมอยู่ประมาณ 4-8 วัน ถ้ามีประวัติการระบาดของโรคในพื้นที่ที่ผู้ป่วยอยู่อาศัยหรือการสัมผัสใกล้ ชิดกับผู้ที่เป็นคางทูม ก็จะช่วยในการวินิจฉัยได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ในรายที่ไม่แน่ใจ อาจทำการตรวจหาเชื้อจากน้ำลาย หรือตรวจหาระดับแอนติบอดี(ภูมิคุ้มกัน) ในเลือด ซึ่งน้อยครั้งมากที่จะต้องวินิจฉัยโดยวิธีเหล่านี้
- อ่าน 54,150 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้