บรูเซลโลซิส โรคติดเชื้อจากสัตว์เลี้ยง
มักมีอาการค่อยเป็นค่อยไปแบบเรื้อรังมากกว่าเฉียบพลัน อาการที่พบบ่อย คือ มีไข้สูงๆ ต่ำๆ แบบเรื้อรัง หรือเป็นๆ หายๆ ไม่แน่นอน (อาจมีไข้ 1-3 สัปดาห์ สลับกับไม่มีไข้ 1-3 วัน) ร่วมกับอาการปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดข้อ ปวดหลัง ปวดเมื่อยตามร่างกายทั่วไป มึน ซึม หนาวสั่น เหงื่อออกมาก ไอ เจ็บหน้าอก น้ำหนักลด ตับโต ม้ามโต อัณฑะอักเสบ ระยะการเจ็บป่วยอาจนานหลายวัน หลายเดือน ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจนานเป็นปีหรือนานกว่า และมักมีอาการซูบผอมจากการขาดอาหาร ในรายที่ติดเชื้อทางอาหารการกิน อาจมีอาการคลื่นไส้ ปวดท้อง ท้องเดิน หรือท้องผูก ปวดหลัง ปวดข้อ ในรายที่เป็นเรื้อรัง อาจมีเพียงอาการไข้ต่ำๆ หรือมีอาการวิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคทางจิตประสาทได้ บางรายอาจติดเชื้อโดยไม่แสดงอาการชัดเจนก็ได้
การดำเนินโรค
ถ้าได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง มักจะหายได้ภาย ในเวลาไม่นาน แต่ถ้ากินยาไม่ครบ ก็อาจกำเริบซ้ำได้อีก ในรายที่ไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง มักจะมีอาการเรื้อรังเป็นแรมเดือนแรมปี และเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ จนถึงเสียชีวิตได้
ภาวะแทรกซ้อน
เชื้อบรูเซลลาสามารถเข้ากระแสเลือด แพร่กระจายไปยังอวัยวะแทบทุกส่วน ก่อให้เกิดการอักเสบต่างๆ ขึ้น ที่พบบ่อยคือ การอักเสบของกระดูกและข้อ อาการที่ข้อพบบ่อยที่สุด ได้แก่ ข้ออักเสบ (ซึ่งมีลักษณะปวดและบวม ที่บริเวณข้อเข่า สะโพก ข้อเท้า ข้อมือ เพียง 1 ข้อหรือพร้อมกันหลายข้อ) การอักเสบที่กระดูกบริเวณเชิงกราน (sacroileitis) ข้อสันหลังอักเสบ (spondylitis) ภาวะแทรกซ้อนอื่น เช่น อัณฑะและท่อนำเชื้ออักเสบ (epidymo-orchitis) สมองและเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ปลายประสาทเสื่อม (peripheral neuropathy) ตับอักเสบ ฝีตับ ถุงน้ำดีอักเสบ ปอดอักเสบ ภาวะมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (pleural effusion) เยื่อตาอักเสบ ม่านตาอักเสบ หลอดเลือดอักเสบ (vasculitis) ผื่นที่ผิวหนัง (erythema nodosum) เป็นต้น ภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง และเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ ได้แก่ เยื่อบุหัวใจอักเสบ (endocarditis) ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจวาย และมักทำให้ลิ้นหัวใจพิการซึ่งต้องทำการผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจอย่างเร่งด่วน
การแยกโรค
อาการไข้ในช่วงแรกๆ (ภายในสัปดาห์แรก) อาจดูคล้ายโรคติดเชื้อเฉียบพลัน เช่น ไข้หวัดใหญ่ (ไข้ปวดเมื่อย เจ็บคอ เบื่ออาหาร) มาลาเรีย (ไข้สูง หนาวสั่นมาก มีประวัติอยู่หรือเดินทางเข้าไปในเขตป่าเขา) เล็บโตสไปโรซิสหรือไข้ฉี่หนู (ไข้สูง หนาวสั่น ปวดเจ็บน่อง ตาแดง ตาเหลือง มีประวัติสัมผัสน้ำ) ปอดอักเสบ (ไข้สูง ไอ เจ็บหน้าอก หายใจหอบ) เป็นต้น เมื่อเป็นไข้เรื้อรัง (เป็นสัปดาห์ๆ หรือเป็นแรมเดือน) อาจต้องแยกออกจากโรคร้ายแรงอื่นๆ เช่น มาลาเรียชนิดเรื้อรัง (ไข้เรื้อรัง และมีประวัติอยู่หรือเดินทางเข้าไปในเขตป่าเขา) ไทฟอยด์หรือไข้รากสาดน้อย (มีไข้สูงตลอดเวลา ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องผูกหรือท้องเดิน) ไทฟัสหรือไข้รากสาดใหญ่ (มีไข้สูง หนาวสั่น อาจพบรอยแผลคล้ายรอยบุหรี่จี้ ตามผิวหนังในบริเวณร่มผ้า มีประวัติอยู่หรือเดินทางเข้าไปในเขตป่าเขา หรือมีอาชีพ ทำไร่ ทำสวน) วัณโรคปอด (ไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ไอเรื้อรัง หรือไอเป็นเลือด) มะเร็ง (ไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด) เป็นต้น
- อ่าน 13,750 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้