หัดเยอรมัน
- พักผ่อน ดื่มน้ำมากๆ เช็ดตัวเวลามีไข้
- ถ้าเบื่ออาหารให้ดื่มนม น้ำหวาน น้ำผลไม้
- ถ้ามีไข้สูงให้ยาลดไข้-พาราเซตามอล (ผู้ที่อายุต่ำกว่า 19 ปี ควรหลีกเลี่ยงการใช้แอสไพรินเพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรย์ซินโดรม ซึ่งเป็นโรคที่มีอันตรายร้ายแรง)
- ถ้าคัน ทายาแก้ผดผื่นคัน (คาลาไมน์โลชั่น)
การป้องกัน
-
โรคนี้สามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีน ซึ่งนิยมฉีดวัคซีนรวม หัด-คางทูม-หัดเยอรมัน (MMR) แก่เด็กทุกคน ตั้งแต่อายุ 9-12 เดือนและฉีดซ้ำอีกครั้ง เมื่ออายุ 4-6 ขวบ
กลุ่มเด็กหญิงวัยรุ่น หรือหญิงวัยเจริญพันธุ์ถ้ายังไม่เคยฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้มาก่อน ควรฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมันเดี่ยวๆ หรือวัคซีนรวม (MMR) ให้ 1 ครั้ง
ถ้าเป็นหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่แต่งงานแล้ว เพื่อความปลอดภัยแนะนำให้ฉีดวัคซีนในระยะที่มีประจำเดือนและคุมกำเนิดอย่างน้อย 3 เดือน (แต่ถ้าหากบังเอิญเกิดการตั้งครรภ์ภายใน 3 เดือน หลังฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน ก็ไม่ควรวิตกกังวล เพราะยังไม่มีรายงานว่า ทารกได้รับอันตรายจากการฉีดวัคซีนชนิดนี้แก่มารดา) -
เมื่อมีคนใกล้ชิดป่วยเป็นหัดเยอรมัน ควรปฏิบัติดังนี้
- ผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการไอ จามรดใส่ผู้อื่น และควรแยกตัวอย่าเข้าใกล้คนอื่นจนกว่าจะพ้นระยะแพร่เชื้อ (ประมาณ 6 วัน หลังจากผื่นหาย)
- ผู้ที่ไม่ป่วย ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดหรือใช้ของใช้ร่วมกับผู้ป่วยควรหมั่นล้างมือด้วยน้ำกับสบู่เพื่อชะเอาเชื้อที่อาจติดมากับมือออกไป
- อ่าน 20,338 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้