โรคโบทูลิซึม อาหารเป็นพิษต่อประสาท
สำหรับผู้ป่วยที่กินอาหารที่ปนเปื้อนพิษ เช่น หน่อไม้พิษ มักจะมีอาการเกิดขึ้นหลังกินอาหาร 8-36 ชั่วโมง (แต่ก็อาจพบเร็วสุด 4 ชั่วโมง และนานสุด 8 วัน หากรับปริมาณพิษเข้าไปมาก อาการก็จะเกิดได้เร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าอาการเกิดขึ้นภายใน 24 ชั่วโมง หลังกินอาหาร อาการมักจะรุนแรง) และมักเป็นพร้อมกันหลายคน
แรกเริ่มจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง บางคนอาจมีอาการท้องเดินร่วมด้วย หลังจากนั้นจะมีอาการอิดโรย อ่อนเพลีย เวียนศีรษะ มึนงง กระหายน้ำ ปากแห้ง คอแห้ง เจ็บคอ หนังตาตก (ลืมตาไม่ขึ้น) ตาพร่ามัวมองเห็นไม่ชัด เห็นภาพซ้อน กลืนลำบาก พูดไม่ชัด หรือตะกุกตะกัก การตรวจดูรูม่านตา จะพบรูม่านตาขยายหรือไม่หดเล็กเมื่อถูกไฟส่อง
ในรายที่เป็นรุนแรง จะมีอาการอ่อนแรงของกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย แขนขาเป็นอัมพาต กล้ามเนื้อหน้าอก หน้าท้อง และกะบังลมอ่อนแรงทำให้หายใจขัด และหยุดหายใจ ในที่สุดหากไม่ได้รับการรักษามักตายภายใน 3-7 วัน ผู้ป่วยจะรู้สึกตัวดีตลอดเวลา ไม่มีอาการชาของแขนขา และไม่มีไข้ (ยกเว้นบางคนอาจมีโรคติดเชื้ออื่นๆ แทรกซ้อนในช่วงหลังๆ) ส่วนผู้ที่ติดเชื้อทางบาดแผล (ซึ่งพบได้เป็นส่วนน้อยนั้น) มักจะมีประวัติฉีดยาเสพติด หรือมีบาดแผลตามผิวหนัง แล้วมีอาการแบบข้างต้น ยกเว้นไม่มีอาการทางระบบทางเดินอาหาร (คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ท้องเดิน) สำหรับทารกที่กินอาหารที่ปนเปื้อนสปอร์ จะมีอาการแรกเริ่ม คือ ท้องผูก ต่อมาจะมีอาการง่วงซึม เฉยเมย ไม่ดูดนม ไม่กินอาหาร หนังตาตก กลืนลำบาก ร้องไม่มีเสียง คอพับคออ่อน เนื้อตัวอ่อนปวกเปียก แขนขาเป็นอัมพาต ถ้าเป็นรุนแรงจะมีอาการหายใจลำบากและหยุดหายใจในที่สุด
การดำเนินโรค
หากได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ผู้ป่วยมักจะหายได้ โดยใช้เวลานานหลายสัปดาห์หรือเป็นแรมเดือน ในรายที่รุนแรง (มีภาวะหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ) หากไม่ได้รับการรักษาได้ทันท่วงที ก็อาจตายภายใน 3-7 วัน หลังมีอาการบางรายอาจมีภาวะแทรกซ้อนดังกล่าวข้างต้น โดยเฉลี่ยโรคนี้มีอัตราตายประมาณร้อยละ 5-10
ภาวะแทรกซ้อน
ที่ร้ายแรงคือ ภาวะการหายใจล้มเหลวซึ่งเป็นสาเหตุของการตายของผู้ป่วย อาจมีโรคปอดอักเสบ (ปอดบวม) แทรกซ้อนเนื่องจากการสำลัก บางคนอาจมีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย ปากแห้ง ตาแห้ง เหนื่อยง่ายเวลาออกแรงนานเป็นแรมปี
การแยกโรค
อาการกล้ามเนื้ออ่อนแรงมักจะมีสาเหตุจากความผิดปกติของระบบประสาทซึ่งมีอยู่หลากหลาย ระยะแรกที่มีอาการหนังตาตก อาจเกิดจากโรคไมแอสทีเนียเกรวิส (โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงเป็นครั้งคราว เนื่องจากภาวะภูมิต้านตัวเอง) พิษจากงูเห่าหรืองูจงอาง เป็นต้น อาการแขนขาอ่อนแรง อาจเกิดจากการติดเชื้อของระบบประสาท โปลิโอ โรคลมอัมพาต (stroke) การได้รับสารพิษอื่นๆ เป็นต้น
- อ่าน 11,386 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้