Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » ดูแลสุขภาพด้วยตนเอง » ข้อมูลโรคและการรักษา » โรคลำไส้แปรปรวน (กลุ่มอาการลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า)

โรคลำไส้แปรปรวน (กลุ่มอาการลำไส้ไวต่อสิ่งเร้า)

  • อาการ
  • สาเหตุ
  • การรักษา
  • การดูแลตนเอง
  • อื่นๆ

ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องแบบบิดเกร็งเป็นพักๆ ตรงบริเวณท้องน้อย (ใต้สะดือ) แบบปวดท้องถ่าย และทุเลาปวดเมื่อมีการถ่ายอุจจาระ ผู้ป่วยมักมีอาการท้องเดินหรือท้องผูกร่วมด้วย

สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีการบีบตัวของลำไส้เร็วกว่าปกติ ก็จะมีอาการถ่ายเป็นน้ำหรือถ่ายเหลววันละหลายครั้ง มักจะถ่ายช่วงหลังตื่นนอนตอนเช้า หรือขณะกินอาหาร หรือหลังกินอาหารทันที อาการอาจเป็นต่อเนื่องทุกวัน หรือเป็นๆ หายๆ เป็นบางวัน มีข้อน่าสังเกตว่าเมื่อเข้านอนตอนกลางคืน จะไม่มีอาการลุกขึ้นมาถ่าย จนกระทั่งรุ่งเช้า สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีการบีบตัวของลำไส้ช้ากว่าปกติ ก็จะมีอาการท้องผูกหรือถ่ายเป็นก้อนแข็ง บางคนอาจถ่ายสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

บางคนอาจมีอาการท้องเดินสลับท้องผูก หรือถ่ายเป็นมูกร่วมด้วย (พบว่าลำไส้ใหญ่ของผู้ป่วยบางคนจะมีการหลั่งเมือกออกมามากกว่าปกติ)

นอกจากนี้ บางคนอาจมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อมีลมในท้องร่วมด้วย

ผู้ป่วยมักเริ่มอาการครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 20 ปี และจะเป็นเรื้อรังเรื่อยๆ นานหลายปี หรือตลอดชีวิต โดยที่ผู้ป่วยมีสุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี ไม่มีอาการถ่ายเป็นเลือด เป็นไข้ หรือน้ำหนักลด

สิ่งที่ทำให้อาการของโรคกำเริบ เช่น

  • การกินอาหารปริมาณมาก
  • การกินอาหารมันๆ นม เนย ไอศกรีม ช็อกโกแลต ชา กาแฟ เครื่องดื่มกาเฟอีน แอลกอฮอล์ น้ำโซดาน้ำผลไม้ที่มีน้ำตาลฟรักโทสสูง ( เช่น น้ำแอปเปิ้ล น้ำองุ่น)
  • อารมณ์เครียด

การดำเนินโรค

มักเป็นๆ หายๆ เรื้อรังนานหลายปี หรือตลอดชีวิต โดยที่สุขภาพแข็งแรงดี และผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีอาการเล็กน้อย ไม่ต้องหาหมอหรือกินยารักษา เพียงแต่ปฏิบัติตัวต่างๆ ก็จะมีคุณภาพชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป

ภาวะแทรกซ้อน

โรคนี้แม้จะเป็นเรื้อรัง แต่มักไม่มีภาวะแทรกซ้อน หรืออันตรายต่อสุขภาพ นอกจากสร้างความรำคาญ และมีความลำบากในการหาห้องน้ำเวลามีอาการท้องเดิน

บางคนที่ถ่ายบ่อย ก็อาจทำให้โรคริดสีดวงทวารที่เป็นอยู่กำเริบ (ถ่ายเป็นเลือด) ได้

การแยกโรค    

  1. โรคติดเชื้อ เช่น เชื้อบิด เชื้อพยาธิไกอาร์เดีย จะมีอาการถ่ายเป็นมูก หรือมูกปนเลือด หรือถ่ายเป็นน้ำเรื้อรัง หรืออาจมีไข้ น้ำหนักลดร่วมด้วย
  2. มะเร็งลำไส้ใหญ่ จะมีอาการท้องผูกสลับท้องเดินเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือดสด น้ำหนักลด มักพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี
  3. โรคของต่อมไทรอยด์ เช่น คอพอกเป็นพิษ จะมีอาการถ่ายเหลวบ่อย ร่วมกับอาการเหนื่อยง่าย ใจสั่น น้ำหนักลด ภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ จะมีอาการอ่อนเพลีย น้ำหนักขึ้น ท้องผูก
  4. ภาวะเยื่อบุมดลูกงอกผิดที่ (endometriosis) จะมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรงเวลามีประจำเดือน
  5. ภาวะพร่องเอนไซม์ย่อยนม (แล็กเทส) จะมีอาการท้องเดินเฉพาะเวลาดื่มนม หรือผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นองค์ประกอบ
  • อ่าน 117,761 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้
Skip to Top

คุณไม่สบายตรงไหน

  • ศีรษะหู ตา คอ จมูก ปาก
  • ลำตัวท้อง แขน มือ อวัยวะภายใน
  • ลำตัวส่วนล่างอวัยวะเพศ ขา เท้า
  • อาการทั่วไป ไข้หวัด ผิวหนัง ฯลฯ

ข้อมูลสุขภาพ

  • โรค
  • ยา
  • สมุนไพร
  • ปฐมพยาบาล
Doctor Me

  • สนับสนุนสื่อสุขภาพออนไลน์หมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • คำแนะนำสำหรับประชาชน เรื่อง โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อีโคไลชนิดรุนแรง
  • ผ่าตัดฟรีสำหรับเด็ก ที่เป็นโรคหัวใจ
  • สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย (สพท.)
Appstore
GooglePlay

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <