มะเร็งปากมดลูก
ระยะแรกเริ่มจะไม่มีอาการผิดปกติใดๆ ให้สังเกตเห็น แต่เมื่อมะเร็งลุกลามมากขึ้น จะพบว่ามีอาการเลือดออกจากช่องคลอด (บางครั้งคิดว่ามีประจำเดือนออกมาก หรือกะปริดกะปรอย) หรือสังเกตเห็นมีเลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์ บางคนอาจมีอาการตกขาวมีกลิ่นเหม็น หรือมีตกขาวปริมาณมาก หรือมีเลือดปน ผู้ที่อยู่ในวัยหมดประจำเดือน อาจสังเกตว่าหลังหมดประจำเดือนนาน 6 เดือน หรือเป็นปี กลับมีเลือดประจำเดือนมาใหม่และออกมากและนานผิดปกติ
การดำเนินโรค
ถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างจริงจัง มะเร็งจะแพร่กระจายจนเกิดอันตรายภายในเวลาไม่กี่ปีได้ ถ้าได้รับการรักษา ผลการรักษาขึ้นกับระยะของโรค ความแข็งแรงของคนไข้ และการตอบสนองต่อการรักษา หากรักษาตั้งแต่ระยะก่อนเป็นมะเร็ง หรือมะเร็งระยะแรกเริ่ม ก็มักจะรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด และสามารถดำเนินชีวิตเช่นคนปกติ รวมทั้งการมีเพศสัมพันธ์ตามปกติ แต่ถ้าเป็นระยะท้ายๆ (ระยะที่ 3 และ 4) การรักษาอย่างจริงจัง อาจช่วยยืดอายุให้ยืนยาวและมีคุณภาพชีวิตดีกว่าการไม่รักษา
ภาวะแทรกซ้อน
อาจตกเลือดมาก จนเกิดภาวะซีด อาจมีอาการปวด หากมะเร็งลุกลามไปที่กระดูกหลัง ก้อนมะเร็งถ้ามีขนาดใหญ่ อาจอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ หรือทางเดินอาหาร ถ้าแพร่กระจายไปยังปอด ตับ ก็อาจทำให้หายใจลำบาก หรือตับวายได้
การแยกโรค
อาการเลือดออกทางช่องคลอด อาจเกิดจากเนื้องอกมดลูก (myoma uteri) หรือเยื่อบุผิวมดลูกงอกผิดที่ (endometriosis) ซึ่งมักจะมีอาการปวดประจำเดือนรุนแรงร่วมกับมีเลือดออกมาก ส่วนอาการตกขาว อาจเกิดจากช่องคลอดอักเสบจากเชื้อราหรือพยาธิ, มดลูกอักเสบ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม สาเหตุเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกต้องแต่เนิ่นๆ ดังนั้น ถ้าหากพบว่ามีเลือดออกทางช่องคลอด หรือตกขาว ก็พึงอย่านิ่งนอนใจว่าเป็นเพียงเรื่องปกติธรรมดา ควรจะรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ และให้การรักษาที่เหมาะสม
- อ่าน 9,797 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้