โรคกระเพาะ
- ถ้ามีอาการเป็นๆ หายๆ เรื้อรัง หรือมีอาการน่าสงสัยว่าอาจเกิดจากสาเหตุร้ายแรง เช่น ปวดรุนแรง ปวดนานเกิน 6 ชั่วโมง กระเทือน ถูกเจ็บ อาเจียน ถ่ายอุจจาระดำ ตาเหลือง ตัวเหลือง น้ำหนักลด ปวด ร้าวขึ้นคอ ขากรรไกร ไหล่ หรือต้นแขนเป็นต้น ควรไปพบแพทย์โดยเร็ว
- ถ้าเพิ่งมีอาการครั้งแรกและไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ (รู้สึกสบายดี) ให้กินยาต้านกรด (antacid) มีลักษณะเป็นยาน้ำสีขาวคล้ายแป้ง) ครั้งละ 15-30 มิลลิลิตร หลังอาหารและก่อนนอน และปฏิบัติตัวดังนี้
- งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ เครื่องดื่มชูกำลัง ช็อกโกแลต น้ำอัดลม อาหารที่ทำให้กำเริบ (เช่น ของมัน ของหวาน รสจัด) หลีกเลี่ยงยา (เช่น แอสไพริน ยาแก้ปวดข้อ)
- กินอาหารให้ตรงเวลาทุกมื้อ และควรกินอาหารมื้อเย็นก่อนเวลาเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
- ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด อย่ารีบเร่ง อย่ากินจนอิ่มมากเกินไป
- หลังกินอาหารอิ่ม อย่าล้มตัวลงนอน หรืออยู่ในท่าก้มงอตัว และอย่ารัดเข็มขัดแน่น
- ถ้าน้ำหนักตัวมาก ควรลดน้ำหนัก
- ถ้าเครียด ควรออกกำลังกายเป็นประจำ และหาวิธีผ่อนคลายความเครียด
- ถ้ากินยา 2-3 วัน รู้สึกทุเลา ขาดยากำเริบ ให้กินยาจนครบ 2 สัปดาห์ แต่ถ้าไม่ทุเลาตั้งแต่แรกควรไปพบแพทย์
- ในกรณีที่กินยา 2 สัปดาห์แล้วไม่หายดี ควรไปพบแพทย์ ถ้าหายดี ควรกินยาจนครบ 6-8 สัปดาห์
- หากกินยาครบตามข้อ 3. แล้วต่อมามีอาการกำเริบ ก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
การป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการใช้ยาโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะกลุ่มยาต้านอักเสบ ที่ไม่ใช่สตีรอยด์ที่ใช้แก้ปวดข้อ ปวดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ และยาอื่นๆ ที่เป็นเหตุกระตุ้นให้โรคกำเริบ
- กินอาหารสุก อย่ากินอาหารดิบๆ สุกๆ หรือมีแมลงวันตอม เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อเอชไพโรไล
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- กินอาหารให้ตรงเวลา
- อ่าน 24,114 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้