เป็นลม
ผู้ที่เป็นลมธรรมดามักจะมีอาการเป็นลมอยู่ในท่ายืน คืออยู่ดีๆ รู้สึกใจหวิว แขนขาอ่อนแรง ทรงตัวไม่ไหว ทรุดลงนอนกับพื้น และหมดสติอยู่ชั่วประเดี๋ยวเดียว อาจนานเพียงไม่กี่วินาที ถึง 1-2 นาที แล้วก็ฟื้นคืนสติได้เอง บางคนก่อนจะเป็นลม อาจมีอาการเตือนล่วงหน้า (เช่น หนักศีรษะ ตัวโคลงเคลง มองเห็นภาพเป็นจุดดำหรือตามัวลง มีเสียงดังในหู คลื่นไส้) อยู่นาน 2-3 นาที แล้วก็เป็นลมฟุบ ขณะเป็นลมจะมีอาการหน้าซีด มีเหงื่อออกเป็นเม็ดทั่วใบหน้าและลำตัว มือเท้าเย็น ชีพจรอาจเต้นช้า (ต่ำกว่า 60 ครั้งต่อนาที)
การดำเนินโรค
มักจะไม่มีอันตรายหรือโรคแทรกซ้อนรุนแรง (ยกเว้นเกิดอุบัติเหตุขณะเป็นลม) และมักจะไม่มีอาการกำเริบซ้ำ
ผู้ที่เป็นลมเนื่องจากกิริยาบางอย่างหรือความดันต่ำในท่ายืน มีโอกาสกำเริบซ้ำได้บ่อย ถ้ายังไม่ได้หลีกเลี่ยงเหตุกระตุ้นหรือแก้ไขสาเหตุของโรค แต่มักไม่มีอันตรายร้ายแรง ยกเว้น การเกิดอุบัติเหตุขณะเป็นลม
ผู้ที่เป็นลมเนื่องจากโรคหัวใจ มักมีอันตรายร้ายแรง มีอัตราตายภายใน 1 ปีสูงถึงร้อยละ 20-30 แต่ถ้าเป็นผู้ป่วยระยะที่รุนแรงไม่มาก และได้รับการรักษาอย่างจริงจังก็มีโอกาสชีวิตยืนยาวได้
ผู้ที่เป็นลมเนื่องจากโรคหลอดเลือดสมอง ถ้าเป็นโรคระยะรุนแรง ก็อาจเกิดอาการอัมพาต หรือเสียชีวิตได้ แต่ถ้าเป็นโรคระยะที่รุนแรงไม่มาก ถ้าได้รับการรักษาอย่างจริงจังก็มักจะมีชีวิตยืนยาวได้
ภาวะแทรกซ้อน
ขณะเป็นลมหมดสติ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะขับรถหรือตกจากที่สูงได้รับบาดเจ็บ เช่น บาดแผล กระดูกหัก ศีรษะได้รับบาดเจ็บ (อาจถึงขั้นมีเลือดออกในสมองได้)
การแยกโรค
อาการเป็นลมหมดสติ อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ได้แก่
- หมดสติหรือโคม่า (coma) ผู้ป่วยจะมีอาการหมดสติไม่รู้สึกตัวอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถฟื้นสติได้เอง มักมีสาเหตุที่ร้ายแรงจัดเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยด่วน
- ช็อก ผู้ป่วยจะมีอาการใจหวิวใจสั่น เหงื่อออกตามตัว มือเท้าเย็น กระสับกระส่ายลุกขึ้นนั่งไม่ไหว เนื่องจากจะมีอาการหน้ามืดคล้ายจะเป็นลม โดยที่ยังพอรู้สึกตัว ไม่หลับสนิทแบบเป็นลมหรือหมดสติ มักมีสาเหตุที่ร้ายแรง จัดเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลโดยด่วนเช่นเดียวกัน
- โรคลมชัก ผู้ป่วยจะมีอาการหมดสติชั่วคราวร่วมกับอาการแขนขาชักเกร็ง กระตุก น้ำลายฟูมปาก ตาค้าง อาจมีอาการปัสสาวะราด แต่จะมีอาการปวดมึนศีรษะ ง่วงนอน มึนงง ต่อมาอีกหลายชั่วโมง
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ พบในผู้ที่อดข้าว หรือใช้ยารักษาเบาหวานอยู่ ผู้ป่วยจะมีอาการใจหวิวใจสั่น รู้สึกหิวข้าว เหงื่อออก แล้วมีอาการเป็นลมหรือหมดสติ
- โรคทางจิตประสาท เช่น โรควิตกกังวล กลุ่มอาการระบายลมหายใจเกิน (hyperventilation syndrome) บางครั้งจะมีอาการหมดสติแน่นิ่งชั่วขณะ คล้ายอาการเป็นลมได้ ผู้ป่วยมักมีอาการคิดมาก กังวล นอนไม่หลับ หรือมีอาการหายใจหอบลึก มือจีบเกร็ง หลังมีเรื่องขัดใจ
- อ่าน 31,918 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้