ข่าวใหญ่ที่สะเทือนขวัญวงการแพทย์ในช่วงส่งท้ายปีเก่าปีนี้คงหนีไม่พ้น กรณีศาลจังหวัดทุ่งสงพิพากษาจำคุก แพทย์ 3 ปี โดยไม่รอลงอาญา เนื่องจากได้ฉีดยาชาเข้าไขสันหลังในการผ่าตัดไส้ติ่งแล้วเกิดภาวะแทรกซ้อนเสียชีวิต ข่าวนี้ได้ก่อให้เกิดปฏิกิริยาตามมามากมาย ตั้งแต่การสะท้อนความรู้สึกและความเห็นของกลุ่มแพทย์ทางอินเทอร์เน็ต และวงศ์สนทนาต่างๆ จนถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบ เช่น แพทยสภา แพทยสมาคม กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ได้ประชุมหารือเพื่อหาทางบรรเทาและป้องกันปัญหาที่กระทบต่อการ ปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ต่อไป
การเกิดการฟ้องร้องแพทย์และการตรวจสอบแพทย์ในรูปแบบอื่นๆ รวมทั้งการรวมตัวของกลุ่มญาติผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากการรักษาพยาบาล ได้ก่อตัวขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และนับวันแต่จะรุนแรงมากขึ้น คำพิพากษาของศาลจังหวัดทุ่งสงดังกล่าว นับว่าเป็นสัญญาณเตือนอันแรงมากที่สุดที่วงการแพทย์ องค์กรที่เกี่ยวข้อง และสังคมโดยรวมจะต้องตื่นขึ้นมาจับมือกันในการหาทางออกให้ดีที่สุด ทั้งต่อการปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์และประโยชน์สุขของประชาชน
วงการแพทย์จะต้องหันมาปฏิรูประบบบริการทางการแพทย์และระบบการพัฒนากำลังคนอย่างขนานใหญ่ เพื่อให้เกิดมาตรฐานและความปลอดภัยในการรักษาผู้ป่วย รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยและญาติ ทั้งนี้โดยการวางแผนจัดเครือข่ายบริการให้เหมาะสมกับสภาพภูมิศาสตร์และการคมนาคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลในระดับอำเภอ หากโรงพยาบาลอำเภอแห่งใดอยู่ไกลจากโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป หรือเป็นชุมทางของหลายอำเภอ ก็ควรพัฒนาให้เป็นโรงพยาบาลทั่วไปที่มีความพร้อมในการรักษาโรคที่ซับซ้อน หากแห่งใดอยู่ใกล้โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป หรือเส้นทางคมนาคมมีความสะดวก ก็ควรจัดเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กหรือศูนย์แพทย์ชุมชนที่เน้นการรักษาโรคพื้นฐานและงานสร้างเสริมสุขภาพชุมชน หลีกเลี่ยงการให้บริการที่มีความเสี่ยง และจัดระบบการส่งต่อผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพ เมื่อสามารถวางแผนจัดเครือข่ายระบบบริการได้ชัดเจนก็สามารถวางแผนกำลังคนให้สอดคล้องกันไป ตลอดจนสามารถวางแผนการผลิตแพทย์สาขาต่างๆ เพื่อสนองตามแผนกำลังคน ทั้งนี้องค์กรที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายนโยบาย ฝ่ายจัดเครือข่ายบริการ และสถาบันการผลิตแพทย์จะต้องวางแผนร่วมกันและดำเนินการให้สอดคล้องกันอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
ปีที่ผ่านมาสิ่งดีๆที่มีการกล่าวขวัญถึงอันหนึ่งก็คือ เรื่องของ "Humanized care" หรือการ "การดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์" โรงพยาบาลหลายแห่งได้ดำเนินโครงการตามแนวคิดของเรื่องนี้ เช่น การให้ความช่วยเหลือและเสริมพลังผู้ป่วยและครอบครัวให้พ้นจากความทุกข์ และคืนศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ (ดังกรณีตัวอย่างที่ได้เขียนถึงในบทบรรณาธิการของฉบับที่แล้ว), การจัดกิจกรรมจิตอาสาสำหรับประชาชนให้เข้ามาบำเพ็ญประโยชน์ในโรงพยาบาล ทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างโรงพยาบาลกับชุมชน, การจัดกิจกรรมดนตรี สร้างบรรยากาศผ่านคลายแก่ผู้ป่วยที่แผนกผู้ป่วยนอก การจัดโครงการมิตรภาพบำบัด (เช่น กลุ่มเพื่อนช่วยเพื่อนของผู้ป่วยเอดส์และผู้ป่วยมะเร็ง), การจัดโครงการสร้างเสริมสุขภาพในชุมชน (เช่น การออกกำลังกาย อาหารปลอดภัย และอาหารสุขภาพ) เป็นต้น นอกจากนี้โรงพยาบาลหลายแห่งยังได้ส่งเสริมให้บุคลากรเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาจิตใจ (จิตวิญญาณ) ให้มีคุณธรรมจริยธรรม ความสุขในการทำหน้าที่และมีจิตอาสาในการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยและชุมชน
ผมเชื่อว่า กระแสของ "Humanized care" จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยกระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ และเกิดเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องนี้อย่างกว้างขวางยิ่งๆขึ้นไป
การจัดระบบเครือข่ายบริการที่มีคุณภาพร่วมกับการพัฒนากำลังคนที่สามารถดูแลผู้ป่วยด้วยหัวใจของความเป็นมนุษย์ ย่อมจะมีส่วนบรรเทาและป้องกันปัญหาความขัดแย้งระหว่างแพทย์กับผู้ป่วยลงได้เป็นอย่างแน่นอน
ท้ายที่สุดนี้ ขออวยพรปีใหม่ให้แฟนๆวารสารคลินิกมีความสุข และมีกำลังใจในการทำความดีและฝ่าฟันอุปสรรคทั้งปวง
สวัสดีปีใหม่ครับ!
- อ่าน 1 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้