"จริงๆ ก็พอใจกับงานที่ทำอยู่ เพราะทุกอย่างจะเอาอุดมคติที่ต้องปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ก็เป็นไปไม่ได้ เพียงแต่ขอให้มีระบบหนึ่งที่อยู่ยั่งยืนยง ที่คอยตรวจสอบ ว่าอะไรที่จะเป็นอันตรายต่อเด็ก เพราะวัน ข้างหน้าก็จะมีวัสดุชนิดใหม่ๆ ออกมา" เป็น คำกล่าวของ รศ. นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ต่องานที่บุกเบิก เพื่อสร้างความปลอดภัยของเด็กจากอุบัติเหตุและความรุนแรง ผมเรียนจบจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ปี พ.ศ. 2529 หลังจากเรียนจบได้ไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลค่ายสุริยพงศ์ จังหวัดน่านอยู่ 3 ปี หลังจากนั้นก็ขอทุนโรงพยาบาลไปเรียนต่อทางด้านกุมารเวชศาสตร์ แล้วก็กลับมาทำงานที่เดิม จากนั้นได้ขอย้ายมาทำงานในฐานะอาจารย์ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
สาเหตุที่ผมเลือกเรียนด้านกุมารเวชศาสตร์นั้น เพราะผมมองว่าปัญหาสุขภาพเด็ก นอกจากเกี่ยวข้องกับสุขภาพแล้ว หากมองลึกลงไปแล้ว ยังมีเรื่องนโยบายอยู่เบื้องหลังด้วย เช่น ปัญหาทารกน้ำหนักตัวน้อย สาเหตุหนึ่งมาจากการที่มารดาได้รับโภชการที่ไม่ดี และหากวิเคราะห์กันให้ลึกลงไปถึงสาเหตุว่าทำไมมารดาจึงไม่ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ สาเหตุที่แท้จริงก็มาจากการกระจายรายได้ที่ไม่เป็นธรรม จึงทำให้ไม่มีเงินซื้ออาหารที่มีประโยชน์
ส่วนที่ผมเข้ามาจับงานด้านการป้องกันอุบัติเหตุและความรุนแรงในเด็กนั้น เพราะเป็นหลักปฏิบัติว่าเวลาที่เด็กมาฉีดวัคซีน กุมารแพทย์ต้องแนะนำการดูแลสุขภาพซึ่งมีทั้งหมด 7 เรื่อง หนึ่งในนั้นคือการป้องกันอุบัติเหตุ แต่เท่าที่ผ่าน มาไม่มีการแนะนำเลยแม้กระทั่งการสอน เป็นเพียงสิ่งที่บอกให้ทำแต่ไม่มีการกระทำ สาเหตุเพราะหนึ่งไม่มีผู้สอน สองไม่เห็นความสำคัญ และสามเสียเวลา
แต่เมื่อมาพิจารณาสถิติการตายผมพบว่าในเด็กตั้งแต่อายุ 1 ขวบขึ้นไป มีอัตราการตายจากอุบัติเหตุสูงขึ้น เพราะเหตุนี้ผมจึงได้หันมาสนใจเรื่องนี้อย่างจริงจัง เมื่อมาศึกษาอย่างจริงจังทำให้ค้นพบอีกว่าในต่างประเทศก็ประสบกับปัญหานี้เช่นกัน
ผมคิดว่าการจะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ต้องแก้ไขโดยการเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม เช่น ปัญหาอุบัติเหตุในสนามเด็กเล่น ต้องเปลี่ยนพื้นของสนามมาเป็นพื้นที่สามารถดูดซับพลังงาน เครื่องเล่นก็ต้องยึดติดกับพื้นสนาม
สิ่งที่เราได้ทำเพื่อแก้ปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม คือการจัดตั้งศูนย์วิจัยเพื่อสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โดยได้ก่อตั้งเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2545 ซึ่งก่อนหน้าที่จะเกิดศูนย์นี้ ผมได้ไปเสนองานวิจัยเรื่อง "การทบทวนการตายของเด็กเนื่องจากอุบัติเหตุ" ซึ่งได้ทุนจากองค์การอนามัยโลก ในครั้งนั้นได้เชิญองค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมรับฟังปัญหา หลังจากการประชุมก็เกิดแนวคิดร่วมกันว่าน่าจะตั้งหน่วยงานหนึ่งขึ้นมา เพื่อผลิตความรู้และเป็นหน่วยงานกลางคอยประสานกับองค์กรต่างๆ เพราะการจะแก้ไขปัญหาอุบัติเหตุในเด็กต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายองค์กร
หน้าที่ของเราคือให้ข้อมูลแล้วส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ตัวอย่างผลงานที่ผ่านมาคือการออกกฎหมายให้เปลี่ยนชื่อรถหัดเดิน เป็นรถพยุงตัว เพราะจากการศึกษาเราพบว่ารถหัดเดินก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บในเด็ก การใช้คำว่ารถหัดเดินจึงก่อให้เกิดการเข้าใจผิด หลังจากเปิดเผยข้อมูลนี้ในการประชุมกับสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว หลังจากนั้น สคบ. ก็ออกกฎหมายให้ผู้ผลิตต้องเปลี่ยนชื่อ และปิดฉลากคำเตือนที่ตัวรถด้วยว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่ได้ช่วยหัดเดิน แต่ยังทำให้การพัฒนาการของเด็กล่าช้าและเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ดังนั้นต้องมีผู้ดูแลใกล้ชิดอยู่ตลอดเวลา
รศ. นพ.อดิศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายถึงสิ่งที่เป็นพลังขับเคลื่อนให้ทำงานดังกล่าวต่อไป แม้ต้องเผชิญกับปัญหาอะไรก็ตามว่า "สิ่งที่คอยขับเคลื่อน คือความชอบ เพราะผมสนใจงานที่ทำอยู่ เมื่อทำก็สนุก อุปสรรคจึงไม่เป็นอุปสรรค ความยากลำบากจึงไม่มี"
- อ่าน 4,708 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้