Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Floater
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Floater

โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 มกราคม 2551 00:00

วิทยาการสมัยใหม่มีเพิ่มขึ้นทุกวันในการดูแลรักษาผู้ป่วย บางครั้งแพทย์โดยเฉพาะแพทย์จบใหม่อาจมีปัญหาในการตอบคำถาม หรือสื่อสารกับผู้ป่วย ซึ่งบางครั้งอาจดูเหมือนเป็นคำถามง่ายๆ สั้นๆ แต่จะตอบให้เข้าใจตรงกันได้ยาก ถ้ามีแนวทางในการตอบคำถามและสื่อสารกับผู้ป่วยให้เข้าใจโรคของตนเอง ก็จะทำให้การดูแลรักษาผู้ป่วยเป็นไปอย่างสมบูรณ์และดียิ่งขึ้น

สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Floater

Q Floater สำคัญอย่างไร
A
Floater คือการมองเห็นจุดดำลอยไปมาในลานสายตา อาจเกิดในตาข้างเดียวหรือเกิดในตาสองข้างก็ได้. บางครั้งอาจพบร่วมกับการมองเห็นแสงไฟแว๊บ (flashing) ในลานสายตาก็ได้. การเกิด floater และ flashing เป็นสัญญาณบ่งบอกถึงภาวะเสื่อมของน้ำวุ้นลูกตา ซึ่งเป็นภาวะที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของวัยตามอายุ เพียงแต่จะเกิดเร็วเกิดช้าแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล.


                           
                            
                                               ภาพที่ 1.
แสดง floater.

Q วุ้นตาเสื่อมตามอายุ คืออะไรและมีความสำคัญอย่างไร
A
เมื่อมนุษย์อายุมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดกับอวัยวะทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะที่ดวงตาก็มีการเปลี่ยนแปลงในหลายๆส่วนของดวงตา เช่น จอประสาทตา, เลนส์แก้วตา, การเกิดต้อหินและสุดท้ายวุ้นลูกตาเสื่อม เป็นต้น. โดยปกติน้ำวุ้นลูกตาในวัยเยาว์จะมีลักษณะใส เหนียว เนื่องจากประกอบด้วย น้ำ 99%, hyaluronic acid 0.2%, collagen fiber 0.2% จะทำให้มีสภาพเหมือนวุ้น. เมื่ออายุมากขึ้นน้ำวุ้น ลูกตาก็จะเริ่มเปลี่ยนสภาพกลายเป็นน้ำ เราเรียกกระบวนการนี้ว่า liquefaction ซึ่งทำให้เกิดแรงดึงรั้งต่อจุดต่างๆ ของจอประสาทตา เช่น ที่ขั้วประสาทตา (optic disc), ตามแนวของหลอดเลือดจอประสาทตา (retinal vessel) และจอประสาทตาทางด้านหน้าที่เราเรียกว่า ora serrata เป็นตำแหน่งที่จอประสาทตาบางตัวที่สุด โดยผลของการบางตัวนี้อาจทำให้เกิดการฉีกขาดของจอประสาทตา (retinal tear) ได้ แต่ถ้ากระบวนการนี้ผ่านไปได้โดยไม่มีการฉีกขาดของจอตา ก็จะมีเพียงแผลเป็นที่มาจากจุดที่เคยยึดแน่นกับจอตาล่องลอยอยู่ในส่วนกลางของดวงตา ทำให้เห็นเป็นจุดดำหรือหยักไย่หรือลูกน้ำลอยไปมานั่นเอง (floater).


                                   
                        
                                                  ภาพที่ 2.
แสดงจุดยึดแน่นของจอประสาทตา.

Q แล้วอาการเห็นแสงไฟแว๊บ (flashing) เกี่ยวข้องกับ floater หรือไม่
A
อาการ floater และ flashing มีความสัมพันธ์กันค่อนข้างมาก ในช่วงเวลาที่เกิด liquefaction และเกิดการดึงรั้งจอประสาทตาอาจทำให้เห็นแสงไฟแว็บได้ เนื่องจากมีแรงกระตุ้นจอประสาทตาเป็นระยะ เกิดสัญญาณภาพขึ้นมา ซึ่งถ้ามีอาการ flashing ขึ้นมา อาจเกิดจอประสาทตาฉีกขาดตามมาได้. จากอุบัติ-การณ์พบว่าถ้ามีอาการ floater หรือ flashing เราสามารถพบ retinal tear ได้ถึงร้อยละ 15-20 จากข้อมูลนี้ทำให้จักษุแพทย์ต้องตรวจจอประสาทตาอย่าง ละเอียดเสมอเมื่อผู้ป่วย complaint อาการดังกล่าว.

                                                   
      
                                                       ภาพที่ 3.
แสดงการเกิด liquefaction.


Q ผลแทรกซ้อนจากน้ำวุ้นลูกตาเสื่อม คืออะไร
A
อันดับแรกก็คือ เกิดจอประสาทตาฉีกขาด หลังจากนั้นในระยะต่อมาน้ำที่เกิดจากการสลายตัวก็จะไหลผ่านรอยฉีกขาดของจอประสาทตา เซาะจอประสาทตาให้หลุดออกจากชั้น choroid ส่งผลให้ระดับการมองเห็นลดลง จนกระทั่งตาบอดสนิทในที่สุด.

                                                          
                                                         ภาพที่ 4. แสดงการเกิด retinal tear.

Q เรามีวิธีการป้องกันและรักษาภาวะจอประสาทตาหลุดลอก (retinal detachment) ได้อย่างไร
A
อาการเริ่มต้นที่สำคัญคือ การเกิด floater และ flashing ซึ่งในร้อยละ 15 ของคนกลุ่มนี้จะตรวจพบรอยฉีกขาดของจอประสาทตาได้. จักษุแพทย์จึงจำเป็นต้องตรวจจอประสาทตาให้ละเอียดโดยการขยายม่านตาเป็นสิ่งที่จำเป็น ถ้าตรวจพบว่ามีรอยฉีกขาด จักษุแพทย์ก็จะนำไปรักษาต่อโดยการยิงเลเซอร์ (retinal photocoagulation) เพื่อให้รอยฉีกขาดยึดติดแน่นอย่างถาวร. แต่ถ้าเกิดจอประสาทตาหลุดลอกออกมาแล้ว จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัดซึ่งมีหลากหลายวิธี.

                                                   
  
                                               ภาพที่ 5.
แสดงรอยเลเซอร์บนจอประสาทตา.

Q ผลการรักษาโรคจอประสาทตาหลุดลอกเป็นอย่างไร
A
ผลของการรักษาโรคจอประสาทตาหลุดลอก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่น
1. ระยะเวลาที่จอประสาทตาหลุดลอก ถ้าหลุดลอกเป็นระยะเวลานานแรมเดือน ส่วนใหญ่ผลการมองเห็นภายหลังรักษามักไม่ค่อยดี.
2. จุดรับภาพ (macular) หลุดหรือไม่.
3. พยาธิสภาพเดิมของจอประสาทตา เช่น จอประสาทตาอักเสบ, สายตาสั้นมากๆ, อุบัติเหตุต่อดวงตาอย่างรุนแรง ก็จะทำให้การพยากรณ์โรคไม่ดี.
4. ความร่วมมือภายหลังการผ่าตัด เนื่องจากหลังผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องอยู่ในท่าที่จำกัด เช่น นอนคว่ำเป็นเวลานาน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ซึ่งถ้าผู้ป่วยทำไม่ได้ก็จะทำให้ผลการผ่าตัดล้มเหลว.


Q ปัจจัยเสี่ยงของโรคจอประสาทตาหลุดลอก (retinal detachment) มีอะไรบ้าง
A
ปัจจัยเสี่ยงของโรคจอประสาทตาหลุดลอกมีดังนี้
1. อายุที่มากขึ้น.
2. สายตาสั้น.
3. โรคจอประสาทตาอักเสบ เช่น cytomegalovirus retinopathy เป็นต้น.
4. อุบัติเหตุต่อดวงตาอย่างรุนแรง.
 
บรรณาธิการ
วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา พ.บ.
ภาควิชาศัลยศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล

ผู้นิพนธ์
กิตติชัย อัครพิพัฒน์กุล พ.บ.
จักษุแพทย์เชี่ยวชาญด้านจอประสาทตาและน้ำวุ้นลูกตา
โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

 

ป้ายคำ:
  • โรคตามระบบ
  • โรคหู ตา คอ จมูก
  • ดูแลสุขภาพ
  • คำถามที่ท่านควรรู้ในเวชปฏิบัติทั่วไป
  • Floater
  • นพ.กิตติชัย อัครพิพัฒน์กุล
  • นพ.วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา
  • อ่าน 6,093 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

277-011
วารสารคลินิก 277
มกราคม 2551
คำถามที่ท่านควรรู้ในเวชปฏิบัติทั่วไป
นพ.วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา
นพ.กิตติชัย อัครพิพัฒน์กุล
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบัน ChangeFusion พัฒนาระบบโดย Opendream สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa