Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » การประเมินสุขภาพองค์รวมของ "วัยรุ่น-วัยวุ่น" (Holistic approach for teens)
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การประเมินสุขภาพองค์รวมของ "วัยรุ่น-วัยวุ่น" (Holistic approach for teens)

โพสโดย Anonymous เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2551 00:00

วัยรุ่นเป็นรอยต่อระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ เป็นช่วงชีวิตที่มีการเปลี่ยนแปลงทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม จึงมีความเสี่ยงและปัญหาสุขภาพที่มีลักษณะพิเศษจากวัยอื่นๆ. จากการศึกษา1พบว่า ในประเทศไทยมีจำนวนประชากรวัยรุ่นประมาณ 1 ใน 4 (ร้อยละ 23.8) ของประชากรทั้งหมด และมีปัญหาสุขภาพที่พบบ่อย ได้แก่ อุบัติเหตุ (รถซิ่ง) ยาเสพติด พฤติกรรมทางเพศ โรคอ้วน เป็นต้น. เมื่อสภาพสังคมเปลี่ยนไป ผู้ใหญ่ต้องเร่งรีบทำงาน จึงไม่มีเวลาดูแลวัยรุ่นอย่างเหมาะสม กอปรกับโลกาภิวัตน์ที่ทำให้วัยรุ่นเข้าถึงสิ่งยั่วยุที่เป็นอันตรายในสังคมได้ง่ายดายกว่าแต่ก่อน. วัยรุ่นจึงเป็นวัยที่เปราะบางและได้รับผลกระทบได้ สูงจากสภาพสังคมปัจจุบัน.

ในเวชปฏิบัติพบวัยรุ่นมารับบริการทางการแพทย์น้อยกว่าเด็กและผู้ใหญ่ เมื่อวัยรุ่นมาใช้บริการก็มักจะนำพาปัญหาสุขภาพวุ่นๆติดตามมาด้วย. จากการศึกษา2พบว่าระบบ บริการส่วนใหญ่ไม่ได้จัดให้เหมาะสมกับวัยรุ่น ไม่ว่าจะเป็นลักษณะการบริการ เวลาเปิดทำการซึ่งวัยรุ่นต้องไปเรียนหนังสือ ทักษะการสื่อสารของแพทย์กับวัยรุ่น ต่างๆเหล่านี้ทำให้วัยรุ่นไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่มีอยู่ได้. บุคลากรทางการแพทย์จึงควรมีความรู้ เจตคติ และทักษะในการเข้าถึงวัยรุ่น-วัยวุ่น ที่นานๆจะเข้ามาใช้บริการทางการแพทย์สักครั้ง.

กรณีศึกษา
หญิงไทยโสด อายุ 17 ปี มาตรวจที่ห้องฉุกเฉินประมาณ 1 ทุ่มเศษ.
อาการสำคัญ ปวดท้องน้อยและมีประจำเดือนมากมา 1 วัน.

ผู้ป่วยนอนอยู่บนเตียงเปลในห้องฉุกเฉิน มีพ่อแม่และน้องสาวยืนอยู่ใกล้ๆ. ขณะที่แพทย์กำลังซักประวัติ สังเกตว่าคำตอบบางอย่างดูไม่ตรงไปตรงมา และดูท่าทางกระอักกระอ่วนเหมือนไม่ค่อยอยากตอบ. แพทย์คิดว่าเป็นเพราะมีพ่อแม่ยืนอยู่ข้างๆ จึงใช้วิธีขออนุญาตตรวจร่างกาย และเชิญญาติให้นั่งคอยด้านนอกสักครู่.

ผู้ป่วยวัยรุ่นจึงกล้าเล่าว่า มีเพศสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มที่โรงเรียนมาประมาณ 6 เดือนเศษ ไม่ได้คุมกำเนิดเพราะคิดว่าคงไม่ตั้งครรภ์ ปกติประจำเดือนจะมาสม่ำเสมอ หลังจากขาดประจำเดือนไปเกือบ 2 เดือนจึงคิดว่าผิดปกติ.

1 สัปดาห์ก่อน เพื่อนซื้อแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์มาให้ตรวจ จึงพบว่ากำลังตั้งครรภ์ ปรึกษากับแฟนแล้วคิดว่ากำลังอยู่ในวัยเรียน จึงตัดสินใจทำแท้ง.

2 วันก่อนจึงใช้ยาเหน็บช่องคลอด หลังจากนั้นปวดท้องมากและมีเลือดออกทางช่องคลอด ต้องใช้ผ้าอนามัยวันละ 5 แผ่นชุ่ม.

วันนี้รู้สึกปวดท้องน้อยมาก คิดว่าน่าจะแท้ง "คุณหมออย่าบอกพ่อแม่หนูนะ...ไม่อยากให้แม่รู้ กลัวแม่จะเสียใจ เพราะแม่เคยบอกว่าอย่าทำเรื่องที่ทำให้พ่อแม่ต้องอับอายขายหน้า".

ประวัติส่วนตัว ผู้ป่วยเป็นบุตรคนโต อาศัยอยู่กับพ่อแม่และน้องสาวอายุ 10 ขวบ. พ่อมีธุรกิจส่วนตัว แม่อาชีพค้าขาย. ผู้ป่วยกำลังศึกษาอยู่ ป.ว.ช. ปี 3 ผลการเรียนปานกลาง. ปฏิเสธการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอลล์บ้างเวลามีงานเลี้ยง. ชอบเที่ยวกับเพื่อนๆ ไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน ปฏิเสธโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์.

ผลการตรวจร่างกาย ซีดเล็กน้อย สีหน้ากังวล ความดันเลือดและชีพจรอยู่ในเกณฑ์ปกติ มดลูกอยู่ระดับหัวหน่าว. ผลการตรวจภายในพบเลือดไหลซึม และมีชิ้นเนื้อคาอยู่ที่ปากมดลูกและช่องคลอด.
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ Hematocrit 31%, Anti-HIV negative.

การวิเคราะห์ปัญหาสุขภาพแบบองค์รวม
ผู้ป่วยวัยรุ่นรายนี้มีพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพหลายประการ ได้แก่ การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ปลอดภัย และไม่คุมกำเนิด ทั้งนี้เป็นเพราะอยู่ในช่วงชีวิตที่กำลังเริ่มสนใจเพื่อนต่างเพศ ขาดความรอบคอบ ความรู้และทักษะในการคุมกำเนิด ร่วมกับมีการดื่มแอลกอฮอลล์ ทำให้มีปัญหาการตั้งครรภ์ขึ้นโดยไม่ตั้งใจ. ขาดผู้ให้คำปรึกษาที่ดี จึงตัดสินใจทำแท้งเองซึ่งเสี่ยงต่อสุขภาพและต้องทรมานจากผลข้างเคียงของการทำแท้ง.

ผู้ป่วยรายนี้เป็นบุตรคนโต เป็นที่คาดหวังของครอบครัวว่าจะเป็นตัวอย่างให้กับน้องสาว. เมื่อเกิดปัญหาขึ้นอาจไม่กล้าพอที่จะบอกให้ครอบครัวทราบ กลัวทำให้ครอบครัวต้องผิดหวัง กลัวครูและเพื่อนที่โรงเรียนทราบ รวมถึงแพทย์ที่ตรวจด้วย. ดังนั้นช่วงแรกที่แพทย์ซักประวัติโดยมีครอบครัวยืนอยู่ด้วย ทำให้ไม่ได้ประวัติที่แท้จริง.

สรุปปัญหาสุขภาพแบบองค์รวม
1. Teenage pregnancy with inevitable abortion.
2. Anemia from acute blood loss.
3. Risky sexual behaviors.
4. Communication failure in family.
5. Difficult history-taking in ER : loss of privacy and confidentiality.

การดูแลผู้ป่วยรายนี้
แพทย์พูดคุยกับผู้ป่วยและประเมินความสัมพันธ์ภายในครอบครัว พบว่าค่อนข้างดีมาตลอด แพทย์จึงปลอบโยนให้ผู้ป่วยเข้าใจ ไม่ให้กลัวเกินกว่าเหตุ และถามความสมัครใจให้ครอบครัวรับทราบความจริงอีกครั้ง. ตอนแรกครอบครัวรู้สึกตกใจ แต่แพทย์ก็อยู่เป็นเพื่อน คอยให้คำปรึกษาและอธิบายให้ครอบครัวเข้าใจผู้ป่วย แล้วจึงนำผู้ป่วยไปรับการรักษาต่อไป.


การซักประวัติผู้ป่วยวัยรุ่น2,3
1. ทักทายทั้งวัยรุ่นและครอบครัวที่มาด้วยกัน.
2. ทำความเข้าใจ สนใจ และเคารพต่อความคิดของทั้งวัยรุ่นและครอบครัว
3. ขอคุยกับวัยรุ่นโดยไม่มีครอบครัวอยู่ด้วย และต้องเกริ่นก่อนว่าแพทย์จะไม่นำเรื่องที่คุยกันไปเล่าให้ครอบครัวทราบ หากเขาไม่ต้องการ หรือไม่ใช่เรื่องที่ต้องแก้ไขร่วมกันกับครอบครัวเพื่อประโยชน์ของเขา.
4. ใช้คำถามที่เหมาะสมกับวัยและความคิดของวัยรุ่นแต่ละช่วง เช่น วัยรุ่นระดับมัธยมต้นมักมองสิ่งต่างๆเป็นเรื่องขาว/ดำ ถูก/ผิด (Concrete thinking) เวลาซักประวัติจึงอาจใช้คำถามนำและปลายปิดได้ แต่สำหรับวัยรุ่นระดับมัธยมปลายหรือระดับมหา- วิทยาลัยสามารถคิดนามธรรมได้ (Abstract thinking) ควรใช้คำถามปลายเปิดเพื่อถามความคิดเห็นของเขา ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยไม่พูดหรือไม่ให้ความร่วมมือ.
5. รับฟังผู้ป่วยอย่างตั้งใจและสนใจ โดยไม่ขัดจังหวะเพื่อปรามหรือสอน เสมือนเป็นพ่อแม่เสียเอง.
6. สนใจทั้งภาษาพูดและภาษาท่าทางของวัยรุ่นว่ากำลังคิดอะไรอยู่.
7. ระวังอย่าด่วนตัดสินวัยรุ่นจากภาษาพูด การแต่งตัวหรือท่าทาง.
8. หากไม่เข้าใจคำศัพท์แสลงวัยรุ่น ให้ถาม ด้วยท่าทีที่สนใจอยากรู้ด้วย.
9. แพทย์ต้องแสดงบทบาทตนเองชัดเจน เพราะวัยรุ่นต้องการปรึกษาแพทย์ ไม่ใช่เพื่อนหรือพ่อแม่.

แนวคำถามเพื่อประเมินสุขภาพวัยรุ่นแบบ องค์รวม
แนวคำถามคัดกรองได้แก่  H-E-A-D-S- S-S2,4

Home/Health เป็นอย่างไร ตอนนี้พักอยู่ที่ไหน อยู่กับใคร ความสัมพันธ์กับคนในบ้านเป็นอย่างไร มีปากเสียงกันบ่อยหรือไม่ คิดว่าตอนนี้สุขภาพเป็นอย่างไร.

Education กำลังเรียนหรือทำงานอยู่ เรียนอยู่ที่ไหน ผลการเรียนเป็นอย่างไรบ้าง ชอบเรียนวิชาใดเป็นพิเศษ อนาคตฝันอยากทำอาชีพอะไรหรือเรียนอะไรต่อ.

Activity
เวลาว่างชอบทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาอะไร เพื่อนที่โรงเรียนเป็นอย่างไร มีเพื่อนสนิทกี่คน เป็นอย่างไรกันบ้าง.

Drugs
เคยดื่มเหล้า เบียร์ สูบบุหรี่หรือกินยาใดบ้างหรือไม่ ปริมาณเท่าไหร่ บ่อยแค่ไหน.

Suicidal/Depression
เคยกลุ้มใจมากๆ บ้างหรือไม่ เรื่องอะไรที่ทำให้ไม่สบายใจมาก ถึงขั้นที่กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เบื่อหน่ายจนคิดทำร้ายตัวเองบ้างหรือไม่ เวลามีปัญหาหรือไม่สบายใจ ทำอย่างไร.

Safety
เวลาอยู่บ้านหรือโรงเรียนรู้สึกปลอดภัยหรือไม่ เวลาขับขี่รถคาดเข็มขัดนิรภัยหรือสวมหมวกกันน็อกหรือไม่.

Sexual activity/sexual identify อาจถามเป็นคำถามหลังๆ เมื่อผู้ป่วยไว้ใจแล้วว่า เคยมีหรือกำลังมีแฟนอยู่หรือไม่ เคยมีเพศสัมพันธ์กันหรือไม่ เพศเดียวกันหรือต่างเพศ ถูกบังคับหรือไม่ มีการคุมกำเนิดอย่างไร ใช้วิธีใด เคยตั้งครรภ์มาก่อนหรือไม่ เคยเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่.

บทสรุป
วัยรุ่นจะไม่ใช่วัยวุ่น หากครอบครัวและสังคมให้ความสนใจ ให้ความรัก ความเข้าใจที่ดีอย่างสม่ำเสมอ แพทย์มีบทบาทสำคัญคือ ประเมินคัดกรองสุขภาพวัยรุ่นอย่างองค์รวมทุกครั้งที่วัยรุ่นมาตรวจรักษาด้วยเรื่องใดๆก็ตาม ให้คำแนะนำ รวมทั้งเป็นที่ปรึกษาให้กับวัยรุ่นและครอบครัว เพราะวัยรุ่นไม่ใช่เด็กหรือผู้ใหญ่ แต่เป็นวัยพิเศษ หากแพทย์หมั่นคัดกรองปัญหาสุขภาพแบบองค์รวมทุกครั้งที่วัยรุ่นมาตรวจรักษา แพทย์จะสามารถป้องกันปัญหาวัยรุ่น-วัยวุ่นในอนาคตได้แต่เนิ่นๆ ไม่ใช่เพียงนั่งรอครั้งต่อไปหรือรายต่อไปของ "หมอ...หนูไปทำแท้งมา หมออย่าบอกแม่หนูนะ".


เอกสารอ้างอิง

1. Ruangkanchanasetr S, Plitponkarnpim A, Hetrakul P, Kongsakon R. Youth risk behavior survey : Bangkok, Thailand. Journal of Adolescent Health 2005;36(3):227-35.
2. McPherson A. Adolescents in primary care. BMJ 2005;330(7489):465-7.
3. Payne D, Martin C, Viner R, Skinner R. Adolescent medicine in paediatric practice. Arch Dis Child 2005;90(11):1133-7.
4. Wilkes MS, Anderson M. A primary care approach to adolescent health care. West J Med 2000;172(3):177-82.

 
พิชิต สุขสบาย พ.บ. (แพทย์ประจำบ้านชั้นปีที่ 2)
สายพิณ หัตถีรัตน์ พ.บ., ว.ว. (เวชปฏิบัติทั่วไป)
อ.ว. (เวชศาสตร์ครอบครัว) ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ภาควิชาเวชศาสตร์ครอบครัว คณะแพทยศาสตร์
โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ป้ายคำ:
  • กรณีศึกษา
  • พฤติกรรมอันตราย
  • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
  • แม่และเด็ก
  • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ.​ และป้องกันโรค
  • คุยสุขภาพ
  • คู่มือครอบครัว
  • วัยรุ่น
  • นพ.พิชิต สุขสบาย
  • ผศ.พญ.สายพิณ หัตถีรัตน์
  • อ่าน 21,387 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

278-010
วารสารคลินิก 278
กุมภาพันธ์ 2551
คู่มือครอบครัว
นพ.พิชิต สุขสบาย, ผศ.พญ.สายพิณ หัตถีรัตน์
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบัน ChangeFusion พัฒนาระบบโดย Opendream สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa