Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » สิทธิในการตายดี ตายอย่างมีศักดิ์ศรี Living Will
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

สิทธิในการตายดี ตายอย่างมีศักดิ์ศรี Living Will

โพสโดย somsak เมื่อ 1 กันยายน 2552 00:00

จากมาตรา12  ของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ 2550 ที่บัญญัติไว้ว่า

" บุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์จะรับบริการสาธารณสุขที่เป็นไปเพื่อยืดการตายในวาระสุดท้ายของชีวิตตน หรือเพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วยได้

การดำเนินตามหนังสือแสดงเจตนา ตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีที่กำหนดในกฎกระทรวง

เมื่อผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุขได้ปฏิบัติตามเจตนาของบุคคลตามวรรคหนึ่ง แล้วมิให้ถือว่าการกระทำนั้นเป็นความผิดและให้พ้นจากความผิดทั้งปวง "


เจตนารมณ์ของผู้ร่าง   " เพื่อความเข้าใจอันดี เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย "

เหตุ ที่มาของมาตรา12 นี้ มาจากหลักสิทธิของมนุษย์ในการตัดสินใจเลือกการรักษาด้านสุขภาพ หลักศาสนาที่เน้นการตายโดยธรรมชาติ หลักกฎหมาย(และฎีกา) ในต่างประเทศ บทประกาศคำแถลงของแพทยสมาคมโลกและปฏิญญาด้านสิทธิผู้ป่วยของ WHO แต่อย่างไรก็ตามในการให้สิทธิการเลือกการตายในแต่ละประเทศยังไม่เหมือนกันขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจของสังคม หลักจริยธรรม ความเชื่อทั้งด้านวิชาการและจิตวิญญาณของแพทย์ และกฎหมายในแต่ละประเทศ ในประเทศไทย เมื่อมีบัญญัติเป็นกฎหมายตามมาตรา 12 นี้ จำเป็นต้องทำความเข้าใจให้ตรงกัน ปรับทัศนคติของผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงของทุกส่วน.


เราควรมีความเข้าใจเบื้องต้นกันเสียก่อนว่า  "หนังสือแสดงเจตนา " (Living Will)
1. ต้องเป็นการกระทำล่วงหน้า.
2. ต้องเป็นวาระสุดท้ายของชีวิตจริงๆ.
3. ต้องตีความทำให้ชัดเจนกับคำว่า  "เพื่อยุติการทรมานจากการเจ็บป่วย".
4. ไม่ใช่ Active Euthanasia หรือ Mercy  Killing คือ การุณฆาต ช่วยให้ผู้อื่นฆ่าตัวตาย หรือทำให้ตายในขณะที่ผู้ป่วยยังมีสติ และไม่ถึงวาระสุดท้ายของชีวิตจริง อันผิดไปจาก " The Hippocratis Oath " และผิดไปจากหลักพุทธศาสนา.


มีคำที่ใช้กับปรัชญาของ ความตาย และ  การตาย อยู่มากมายโดยผู้รู้และผู้ศึกษาเกี่ยวกับการตายอยู่มากทั้งแพทย์ นักกฎหมาย พระ นักบวช ซึ่งเขียนไว้ในด้านศิลปะการตาย การตายอย่างสงบ การตายอย่างธรรมชาติ การเตรียมตัวตาย คงไม่พูดถึงในที่นี้ เนื่องจากไม่ใช่วัตถุประสงค์ แต่  อดที่จะเอ่ยถึงบทความ ของอาจารย์สันต์ หัตถีรัตน์ ไม่ได้ ซึ่งได้อ่านต้นฉบับของหนังสือที่กำลังจะตีพิมพ์บางส่วน เชื่อว่าท่านมีความรู้ลึก รู้จริง ขอให้ผู้สนใจติดตามในหนังสือของท่านได้ต่อไป.


แพทยสภาเล็งเห็นถึงประโยชน์ในการทำความเข้าใจในการทำความชัดเจนของข้อกฎหมายเพื่อให้  ผู้ประกอบวิชาชีพได้มีความเข้าใจตรงกันทั้งประเทศ เพราะในร่างกฎกระทรวงที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติร่างไว้ ได้กำหนดกฎเกณฑ์ให้แพทย์ต้องรับหน้าที่ อันเนื่องจากสิทธิของผู้ป่วยไว้หลายกรณี จึงเป็นเหตุให้ต้องมีการจัดสัมมนาในหัวข้อที่เกี่ยวกับร่างกฎกระทรวง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2552.


ผู้เข้าร่วมสัมมนาประมาณ 150 ประกอบด้วย แพทย์ผู้ปฏิบัติ, ศาล, อัยการ,ตัวแทนคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ, ทนายความ, ตำรวจ ทุกท่านให้ความสนใจมาก เตรียมตัวมาอย่างดี มีการเปิดประเด็นอย่างกว้างขวาง และค่อนข้างเร้าใจทีเดียว มีความเห็นจากการปฏิบัติจริงและเสนอแนวทางไว้ด้วย ดังนี้ครับ

1. ผู้พิพากษาให้ความเห็นว่า ร่างกฎกระทรวงนี้เกินกรอบที่กำหนดตามมาตรา 12 ที่ให้กำหนด      หลักเกณฑ์และวิธีการดำเนินการตามหนังสือแสดงเจตนาฯ เท่านั้น ไม่ได้ให้กำหนดวิธีการทำหนังสือแสดงเจตนาตามในร่างกฎกระทรวงข้อ 2 โดยเฉพาะข้อ 2.2 กฎหมายไม่ได้กำหนดให้ผู้อื่นแสดงเจตนาแทนได้

2. อัยการให้ความเห็นว่า หลายประเด็นใน ร่างกฎกระทรวงนี้ เกินกรอบที่กำหนดตามมาตรา 12 โดยเฉพาะการระบุประเภทของบริการที่จะไม่รับตาม  ข้อ 2.1 ง และกฎหมายนี้ควรปรับให้เข้ากับบริบทของประเทศไทย

3. ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ความเห็นว่าไม่เห็นด้วยกับการมีกฎหมายกำหนดให้แพทย์ต้องเป็นผู้ตัดสินใจปฏิบัติเช่นนี้ ข้อวินิจฉัยกรณีที่มีปัญหาควรเป็นอำนาจของศาล มีความเห็นว่าแพทย์ควรปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้

4. ความเห็นของแพทย์ประกอบด้วย ศัลยแพทย์ทั่วไป อายุรแพทย์ ประสาทศัลยแพทย์ ประสาทแพทย์ จิตแพทย์ วิสัญญีแพทย์ แพทย์ผู้ดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง สูตินรีแพทย์ กุมารแพทย์ อาจารย์อาวุโสและกรรมการแพทยสภา มีความเห็นสรุปได้ดังนี้

4.1 ในทางปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยในวาระสุดท้ายของชีวิตนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหาที่เกิดการรักษาเกินความจำเป็นในผู้ป่วยเหล่านี้เกิดจาก ความเข้าใจของแพทย์และคนทั่วไปเห็นว่าการรักษาดังกล่าว เป็นการรักษาอย่างถึงที่สุด ทางแก้ไขปัญหานี้จึงควรมีแนวทางปฏิบัติสำหรับแพทย์เป็นกรอบ  ปฏิบัติ ซึ่งเป็นมาตรฐานของแพทย์ในแต่ละสาขามีกำหนดอยู่แล้ว เมื่อได้ดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว หากมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น การมีกรอบเช่นนี้และแพทย์ได้ปฏิบัติตามกรอบนี้แล้วจะเป็นเกราะป้องกันทางกฎหมายได้ แพทย์ผู้ปฏิบัติงานจึงสามารถที่จะไม่ให้การรักษาเกินความจำเป็นต่างๆ ได้เห็นควรเสนอให้แพทยสภากำหนดกรอบดังกล่าวไว้ในข้อบังคับ แพทยสภาว่าด้วยจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เรื่องการปฏิบัติต่อผู้ป่วยที่อยู่ในวาระสุดท้ายของชีวิต การมีมาตรา 12 ไม่ได้แก้ปัญหาดังกล่าว กลับสร้างภาระให้กับแพทย์ผู้ปฏิบัติงาน ต้องปฏิบัติตาม หากไม่ปฏิบัติตามจะถูกข้อหาละเมิดตามกฎหมายได้ แม้ไม่มีบทกำหนดโทษไว้ก็ตาม เสนอให้แก้ไขพ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ เมื่อครบการประกาศใช้ 5 ปี ให้ยกเลิกมาตรา 12 นี้.

4.2 กฎกระทรวงนี้ไม่เป็นเรื่องเร่งด่วน และบุคคลมีสิทธิทำหนังสือแสดงเจตนาแล้ว การปฏิบัติของแพทย์ให้ดำเนินไปตามมาตรฐานวิชาชีพกำหนด การมีหนังสือดังกล่าวช่วยให้แพทย์ดำเนินการตามมาตรฐานวิชาชีพได้โดยไม่ต้องพะวงปัญหาทางกฎหมาย ควรชะลอการออกกฎกระทรวงดังกล่าวพิจารณาแก้ไขในประเด็นที่มีปัญหาในทางปฏิบัติ.

4.3 รายละเอียดในกฎกระทรวงที่สมควรแก้ไข ได้แก่

(1) ข้อ 2.1 ง กำหนดให้ระบุประเภทของบริการสาธารณสุขที่ไม่ต้องการจะได้รับ มีความเห็นว่าให้ตัดออก เนื่องจากในมาตรฐานวิชาชีพแพทย์ มีกำหนดอยู่แล้วว่า การทำหัตถการใดควรทำหรือไม่อย่างไร โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ จึงควรให้เป็นดุลยพินิจของแพทย์.

(2) ข้อ 3.5 กำหนดว่าผู้อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ให้หนังสือมีผลเมื่อผู้นั้นพ้นจากสภาพตั้งครรภ์ สูตินรีแพทย์มีความเห็นว่าให้ตัดออก เนื่องจากมีแนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยแต่ละรายที่ไม่เหมือนกัน ตามอายุครรภ์และพยาธิสภาพ จึงควรเป็นดุลยพินิจของแพทย์.


ในที่ประชุมแทบจะไม่มีใครไม่เห็นด้วยกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ทุกคนเห็นด้วย เพียงแต่แนวทางปฏิบัติเท่านั้นที่จะเป็นปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การได้มาซึ่ง "หนังสือแสดงเจตนา" เนื่อง จากมีประเด็นของสังคม ประเด็นกฎหมาย ประเด็นความจริงแท้ของหนังสือนี้ ใครควรเป็นผู้รับรองหนังสือ ในที่ประชุมต้องการให้มีผู้รับรองหนังสือแสดงเจตนาโดยไม่ต้องเป็นแพทย์ เช่น ศาล, ทนายความ, หน่วยงานของสำนักงานสุขภาพแห่งชาติ หรือหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นในการนี้ เพื่อให้แพทย์ได้มีเวลาพอที่จะดูแลผู้ป่วยอื่นที่เป็นภารกิจหลักซึ่งก็หนักหนาสาหัสอยู่แล้ว เมื่อแพทย์ได้เห็นหนังสือที่มีผู้รับรองเชื่อว่าไม่ปฏิเสธความต้องการของผู้ป่วยนั้น แต่อย่างไรก็ตามคงต้องอยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์ผู้นั้นด้วย.


ท้ายที่สุด โดยส่วนตัวแล้วเห็นด้วยกับปรัชญาการเลือกการตายของผู้ป่วยอย่างมีศักดิ์ศรีโดยสงบ ให้ผู้ป่วยตายตามธรรมชาติให้มากที่สุด เนื่องจากตนเองได้ศึกษาตามหลักธรรมของพุทธศาสนาอยู่บ้าง โดยพิจารณามรรค 8 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมวดสมาธิ และปัญญา และพิจารณาไตรลักษณ์  "ทุกขัง       อนิจจัง อนัตตา " โดยเฉพาะอนัตตา อันเป็นส่วนที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ด้วยตนเอง หมายถึงไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา สรรพสิ่ง บังคับไม่ได้ (หลวงพ่อธีร์) และยังพิจารณา เวทนา (สัตยา นารา โกเอ็นก้า) ความคิด (จิต) ตาม  "สติปัฏฐาน 4Ž เพื่อละวางกิเลส ตัณหา อุปาทาน ซึ่งเท่ากับเตรียมตัว " ตายเสียก่อนตาย " (ท่านพุทธทาส) อยู่บ้างแล้ว.


สำหรับผู้ที่อยู่ในวาระสุดท้ายส่วนใหญ่ไม่เคยปฏิบัติธรรม ไม่ได้ฝึกฝนตนเองมาก่อน นอกจากจะ มีปัญหา ด้านกาย (รูป) และยังมีปัญหาด้าน จิตใจ ซึ่งน่าจะเป็นปัญหาใหญ่กว่าทางกายเสียอีก ด้วยเหตุนี้การดูแลผู้ป่วยในระยะสุดท้าย ต้องถูกขบคิด และต้องให้เข้าถึงจิตวิญญาณของผู้ป่วยด้วยจึงจะยังประโยชน์ให้แก่ผู้ป่วยได้อย่างจริงแท้ ร่างกฎกระทรวงต้องคำนึง ถึงบริบทที่สำคัญได้แก่ จริยธรรมแพทย์ วิชาการ สิทธิ ของความเป็นมนุษย์ ภาระงานของแพทย์ กฎหมาย ความเชื่อด้านปรัชญาทั้งของผู้ป่วยและแพทย์.

**อย่างไรเสียไม่ว่าจะมี  "หนังสือแสดงเจตนาไม่ประสงค์รับบริการสาธารณสุข" หรือไม่ แพทย์ทุกท่านพึงทำความเข้าใจ ปรึกษากับญาติให้ชัดเจนก่อนการทำ Passive Euthanasia ทุกราย**.

 

สัมพันธ์ คมฤทธิ์ พ.บ.
เลขาธิการแพทยสภา


 

ป้ายคำ:
  • อื่น ๆ
  • ข่าวสารจากเลขาธิการแพทยสภา
  • นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์
  • อ่าน 12,544 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

297-011
วารสารคลินิก 297
กันยายน 2552
ข่าวสารจากเลขาธิการแพทยสภา
นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบัน ChangeFusion พัฒนาระบบโดย Opendream สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa