Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » การผ่าตัดแก้ปัญหาสายตา
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การผ่าตัดแก้ปัญหาสายตา

โพสโดย somsak เมื่อ 1 กันยายน 2547 00:00

ถาม  :  การผ่าตัดแก้ปัญหาสายตาเป็นการผ่าตัดส่วนใดของตา.

ตอบ  :  การแก้ปัญหาสายตาผิดปกติ คือ สายตาสั้น (myopia) สายตายาว(hyperopia) หรือสายตาเอียง (astigmatism) นอกจากการใช้แว่นตาและคอนแทคเลนส์แล้ว ปัจจุบันมีการผ่าตัดหลายแบบเพื่อแก้ปัญหาสายตา ทั้งการผ่าตัดที่เลนส์แก้วตา (phacorefractive surgery) หรือการผ่าตัดที่กระจกตาดำ (kerato-refractive surgery) ซึ่งเป็นส่วนที่ทำหน้าที่หักเหแสงที่สำคัญของดวงตาเพื่อลดความโค้งหรือความหนา  ของกระจกตา ทำให้ผู้ป่วยหายสายตาสั้น สายตาเอียง หรือแม้แต่สายตายาว.
 

ถาม    :  การผ่าตัดทำ excimer เหมือนกับการทำเลสิก (lasik) หรือไม่.
ตอบ   :  การใช้ excimer laser เป็นวิธีการหนึ่งในการทำให้กระจกตาบางลงเพื่อแก้ไขภาวะสายตาผิดปกติที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน โดยใช้แสงเลเซอร์ชนิด excimer (ความยาวคลื่นประมาณ 193 นาโนเมตร) ยิงบริเวณกระจกตาในตำแหน่งที่ต้องการให้บางลง เพื่อลดการหักเหของแสงที่กระจกตา ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 วิธีคือ

1. Photo-refractive keratectomy (PRK) ทำโดยการยิงเลเซอร์ไปบนกระจกตาในบริเวณที่ต้องการโดยไม่มีการใช้มีด (microkeratome) ฝานกระจกตา ก่อนยิงเลเซอร์ สามารถทำได้ในผู้ที่มีสายตาสั้นไม่มาก แต่มีข้อเสียคือ หลังทำผู้ป่วยจะเคืองตามากเนื่องจากมีการสูญเสียเซลล์ epithelium ของกระจกตาบริเวณนั้น.

2. การทำเลสิก (laser in situ keratomileusis, lasik) จะมีการใช้มีด (microkeratome) ผ่าน
กระจกตาบริเวณที่จะยิงเลเซอร์เปิดออกก่อน และยิงเลเซอร์  excimer ไปบริเวณที่ต้องการ แล้วจึงปิดฝากระจกตาที่ฝานไว้กลับที่เดิม ทำให้ไม่มีการสูญเสีย epithelium ของกระจกตา ผู้ป่วยจึงไม่เคืองตา จึงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน.
จะเห็นได้ว่า excimer เป็นชื่อของเลเซอร์ที่นิยมนำมาใช้ในการผ่าตัดแก้สายตาผิดปกติ ส่วนเลสิกเป็นชื่อวิธีซึ่งนิยมทำในปัจจุบัน.


ถาม   :  ผู้ป่วยกลุ่มใดจึงจะเหมาะสมกับการทำเลสิก.
ตอบ   :  ผู้ป่วยที่จะมาทำเลสิก ต้องแน่ใจว่าต้องการวิธีนี้ เนื่องจากไม่สะดวกในการแก้ไขสายตาผิดปกติด้วยวิธีอื่น เช่น การใส่แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ นอกจากนั้นยังต้องมีภาวะสายตาที่คงที่มาอย่างน้อย 1 ปี (เพราะถ้าสายตายังไม่คงที่หลังทำอาจต้องกลับมาใส่แว่นอีกเมื่อระดับสายตาเปลี่ยนไป) จึงควรทำในผู้ที่มีอายุเกินกว่า 18-20 ปี เพราะลูกตาเจริญเติบโตเต็มที่และมักมีสายตาที่ไม่เปลี่ยนแปลงมาก.

นอกจากนั้นผู้ป่วยต้องไม่เป็นโรคของดวงตา เช่น เปลือกตาอักเสบที่ยังไม่ได้รับการรักษา, โรคตาแห้งอย่างรุนแรง, โรคกระจกตาโค้งผิดปกติ (keratoconus) หรือโรคต้อหินระยะรุนแรง รวมทั้งต้องไม่เป็นโรคทางร่างกายบางโรค เช่น โรครูมาตอยด์, โรคเอส แอล อี, ไม่ได้กำลังได้รับยาเคมีบำบัด (จะมีผลต่อการหายของแผลเลสิก), ไม่ได้ตั้งครรภ์ หรือเพิ่งคลอดบุตรภายใน 6 เดือน (เพราะภาวะฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงมีผลต่อการหายของแผลที่กระจกตา).

สำหรับระดับสายตาผิดปกติที่เหมาะสมในการทำเลสิก คือสายตาสั้นน้อยกว่า 15.00 ไดออปเตอร์ (หรือที่เรียกทั่วไปว่าสายตาสั้น 1500) ขึ้นกับความหนาของกระจกตา ซึ่งจักษุแพทย์จะพิจารณาเป็นรายๆ ไป สายตาเอียงไม่เกิน 6.00 ไดออปเตอร์ หรือสายตายาวไม่เกิน 6.00 ไดออปเตอร์ (การใช้เลเซอร์แก้สายตายาวได้ผลน้อยกว่าการแก้สายตาสั้นหรือสายตาเอียง). ส่วนการทำ PRK จะทำในผู้ที่สายตาสั้นไม่เกิน 9.00 ไดออปเตอร์ สายตาเอียงไม่เกิน 6.00 ไดออปเตอร์ และสายตายาวไม่เกิน 4.00 ไดออปเตอร์.


ตอบ   : ใช้เวลาในการทำนานหรือไม่ และขณะทำเจ็บมากหรือไม่.
ถาม    :  เวลาในการฉายแสงเลเซอร์เพียงข้างละครึ่งถึง 1 นาที แต่หากรวมเวลาทั้งหมดจะประมาณ 30 นาทีต่อตา 1 ข้างขณะทำจะใช้การหยอดยาชา โดยทั่วไปผู้ป่วยจะไม่รู้สึกเจ็บเลย.


ถาม   :  เครื่องเลเซอร์ excimer ที่มีใช้ในประเทศไทยขณะนี้เหมือนกันหมดทุกที่หรือไม่ ควรทำที่ไหนดี.
ตอบ   : เครื่อง excimer มีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่
รุ่นที่ 1 ซึ่งลำแสงเลเซอร์เป็นวงใหญ่ทำให้ได้พื้นผิวกระจกตาไม่เรียบ
รุ่นที่ 2 พัฒนาลำแสงเลเซอร์เป็นแถบบาง ทำให้กระจกตาเรียบขึ้น
รุ่นที่ 3 แสงเลเซอร์เป็นจุดเล็กๆ จะทำให้กระจกตาเรียบและได้ผลแม่นยำมากขึ้น
รุ่นที่ 4 มีการนำหลักการหน้าคลื่น (wavefront) มาใช้ในการวัดภาวะสายตาผิดปกติอย่างละเอียดเพื่อวางแผนในการยิงเลเซอร์ จึงให้ผลที่แม่นยำและลดภาวการณ์เห็นแสงสะท้อนรอบดวงไฟ ที่อาจพบได้ในผู้ป่วยหลังทำ excimer และ รุ่นที่ 5 ซึ่งพัฒนาให้ใช้เวลาในการยิงเลเซอร์สั้นลงกว่ารุ่นที่ 4. ปัจจุบันในประเทศไทยมีเครื่อง excimer ทุกรุ่นขึ้นกับโรงพยาบาลแต่ละแห่ง.
การพิจารณาทำที่ใด คงขึ้นกับหลายปัจจัยแล้วแต่ความสะดวกของผู้ป่วยเพราะปัจจุบันโรงพยาบาลของรัฐและโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่เกือบทุกแห่งมีให้บริการได้.

 

ถาม   :  ค่าใช้จ่ายในการทำราคาสูงหรือไม่ ใช้สิทธิเบิกราชการได้เท่าใด.
ตอบ   :  ค่าใช้จ่ายในการทำเลสิกในโรงพยาบาลของรัฐประมาณ 20,000-35,000 บาทต่อข้างหากทำพร้อมทั้ง 2 ตา ค่าใช้จ่ายประมาณ 40,000-60,000 บาท หากเป็นโรงพยาบาลเอกชน อาจมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นแล้วแต่โรงพยาบาล และไม่สามารถเบิกราชการได้.


ถาม    :  ผู้มีอายุที่เริ่มอ่านหนังสือใกล้ไม่เห็น สามารถทำเลสิกได้หรือไม่.
ตอบ    :  การทำเลสิกไม่สามารถแก้ภาวะสายตายาวในผู้สูงอายุ (presbyopia) ซึ่งจะมีปัญหาอ่านหนังสือระยะใกล้ไม่ชัด แต่อาจใช้เลเซอร์เพื่อให้ตาข้างหนึ่งเห็นภาพที่ระยะไกลชัด และตาอีกข้างหนึ่งเห็นภาพที่ระยะใกล้ชัด ขึ้นกับการพิจารณาร่วมกันระหว่างผู้ป่วยกับจักษุแพทย์.


ถาม   :   อันตรายหรือภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการทำเลสิกมีหรือไม่.
ตอบ   :  ปัญหาหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบหลังการทำเลสิก เช่น การเห็นแสงสะท้อนบริเวณดวงไฟ (glare) พบได้ร้อยละ 3-40 ขึ้นกับขนาดรูม่านตาผู้ป่วยและขนาดบริเวณที่ยิงเลเซอร์ ซึ่งปัญหานี้มักหายไปในที่สุด, ปัญหาตาแห้งพบได้ร้อยละ 3-60 แก้ไขโดยการใช้น้ำตาเทียม, ปัญหาการติดเชื้อพบน้อยเพียงร้อยละ 0.02-0.1.


ถาม    :  หลังทำแล้ว จะไม่ต้องใส่แว่นไปตลอดชีวิตเลยได้หรือเปล่า
.
ตอบ   :  โดยทั่วไปจักษุแพทย์จะพยายามทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องใส่แว่นอีก แต่ในระยะยาวหากมีสายตาเปลี่ยนแปลงหรือเกิดการซ่อมแซมตัวเองของกระจกตามากอาจมีสายตาสั้นได้อีก โดยทั่วไปมักไม่มากเหมือนก่อนทำ และยังสามารถทำ excimer  ซ้ำได้.

 

ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์ พ.บ., น.บ., ว.ว. (จักษุวิทยา)
สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี, กรมการแพทย์

วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา พ.บ., ภาควิชาศัลยศาสตร์, คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี,  มหาวิทยาลัยมหิดล (บรรณาธิการ)

 

ป้ายคำ:
  • โรคหู ตา คอ จมูก
  • คำถามที่ท่านควรรู้ในเวชปฏิบัติทั่วไป
  • เลสิค
  • นพ.วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา
  • นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์
  • อ่าน 4,104 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

237-011
วารสารคลินิก 237
กันยายน 2547
คำถามที่ท่านควรรู้ในเวชปฏิบัติทั่วไป
นพ.วีรพัฒน์ สุวรรณธรรมา, นพ.ศักดิ์ชัย วงศกิตติรักษ์
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบัน ChangeFusion พัฒนาระบบโดย Opendream สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa