(Abbott RD, et al. Walking and dementia in physically capable elderly men. JAMA 2004;292:1447-53.)
การเคลื่อนไหวร่างกายเป็นประจำ (physical activity) ช่วยป้องกันสมองเสื่อม (dementia) ในผู้สูงอายุได้ แต่การเดินเป็นการออกแรงกายแบบไม่หักโหมจะช่วยป้องกันได้หรือไม่. Abbott RD และคณะติดตามชายที่มีอายุ 71-93 ปีจำนวน 2,257 คน ซึ่งอยู่ในการศึกษา Honolulu-Asia Aging Study เริ่มระหว่างปี พ.ศ. 2534-2536. ผู้วิจัยเลือกคนที่ยังมีสมรรถภาพทางกายอยู่ดี เช่น เดินไปมาบนพื้นราบได้ ทำงานสวนในบ้านได้. ส่วนคนไม่อยู่ในการศึกษานี้ คือคนที่ทำงานออกแรงทางกายไม่ได้ คนที่ต้องใช้เครื่องช่วยเดิน และคนสูบบุหรี่. เริ่มแรกการเก็บข้อมูลพื้นฐานมีการตรวจร่างกายตรวจความสามารถทางกายภาพจากนั้นศึกษาติดตามไปข้างหน้าโดยสอบถามว่าแต่ละคนเดินได้ระยะทางวันละเท่าไร. ระหว่างติดตามมีการตรวจร่างกายทางระบบประสาท 2 ช่วง คือ ช่วงปีพ.ศ. 2537-2539 และช่วงปี พ.ศ. 2540-2542. สุดท้ายดูว่ามีอุบัติการณ์ของ ภาวะสมองเสื่อมเท่าไหร่ โดยคัดกรองด้วยแบบทดสอบที่เรียก Cognitive Ability Screening Instrument (CASI) ถ้าได้ผลสงสัยก็ยืนยันด้วยการตรวจเพิ่มเติมทางระบบประสาทอย่างละเอียดเพื่อวินิจฉัย โดยใช้เกณฑ์วินิจฉัยตามคู่มือ Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders, Revised Third Edition และ California Alzeimer ' s Disease Diagnostic and Treatment Centers.
ในระหว่างระยะเวลาที่ศึกษามีผู้ป่วยภาวะสมองเสื่อมเกิดขึ้นรวม 158 คน(อุบัติการณ์ 15.6/1,000 คน-ปี) ในจำนวนนี้ 101 คน (อุบัติการณ์ 10/1,000 คน-ปี) เป็นอัลไซเมอร์อย่างเดียว หรือเป็น primary cause, 30 คน (30/1,000 คน-ปี) เป็น vascular dementia และที่เหลืออีก 27 คนมีสาเหตุแบบ mixed ของ อัลไซเมอร์และ vascular หรือร่วมกับภาวะอื่น เช่น พาร์กินสัน. คนที่เดินมากกว่า 2 ไมล์/วันมีอุบัติการณ์สมองเสื่อมน้อยกว่าคนที่เดินน้อยดังนี้ เดินมากกว่า 2 ไมล์/วัน (อุบัติการณ์ 10.3/1,000 คน-ปี), เดิน 1-2 ไมล์/วัน (อุบัติการณ์ 14.1/1,000 คน-ปี), เดิน 0.25-1 ไมล์/วัน (อุบัติการณ์ 7.6/1,000 คน-ปี), และเดินน้อยกว่า 0.25 ไมล์/วัน (อุบัติการณ์ 17.8/1,000 คน-ปี) นั่นคือคนที่เดิน น้อยกว่า 0.25 ไมล์/วัน มีความเสี่ยงที่จะมีภาวะสมองเสื่อมเป็น 1.9 เท่าของคนที่เดินวันละมากกว่า 2 ไมล์/วัน (HR 1.93, 95 % CI 1.11, 3.34).
ผู้วิจัยสรุปว่า การเดินช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมในคนสูงอายุชาย. การศึกษาในผู้สูงอายุหญิงใน Nurse 's Health Study1 ก็พบว่า หญิงที่ออกแรงเคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอ รวมทั้งการเดินสม่ำเสมอ มีความสามารถทางสมองสติปัญญา ความคิดความจำดีกว่ากลุ่มที่ออกแรงกายน้อยกว่าเช่นกัน.
วิชัย เอกพลากร พ.บ., Ph.D., รองศาสตราจารย์, ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน
คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 2,829 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้