Sherman KJ, et al. Comparing yoga, exercise, and a self-care book for chronic low back pain, A randomized controlled trial. Ann Intewrn Med 2005;143:849-56.
ปวดหลังเรื้อรังเป็นอาการที่พบบ่อยโดยเฉพาะในคนชรา นอกจากการใช้ยาแก้ปวดแล้วการรักษาที่ไม่ใช้ยาที่ได้ผลบ้างก็คือ การออกกำลังกายแต่ยังไม่มีงานวิจัยที่สรุปได้ว่าการออกกำลังกายแบบใดที่ได้ผลดีกว่ากัน. ปัจจุบันการฝึกโยคะเป็นวิธีบริหารร่างกายที่คนนิยมมากขึ้นแต่ยังไม่มีการศึกษาถึงประสิทธิผลว่าได้ผลในการรักษาปวดหลังได้หรือไม่ชัดเจน.
การวิจัยนี้เป็นการศึกษาแบบ randomized controlled trial ดูผลการรักษาอาการปวดหลัง 3 กลุ่มคือ กลุ่มฝึกโยคะ (จำนวน 36 คน) เปรียบเทียบกับกลุ่มฝึกบริหารทั่วไป (35 คน) และอีกกลุ่มเป็นกลุ่มควบคุมซึ่งได้หนังสือคู่มือการดูแลด้วยตนเอง (30 คน) จากนั้นมีการประเมินผลภายหลังการฝึกเป็นเวลา 12 สัปดาห์ โดยกลุ่มฝึกโยคะฝึกท่าพื้นฐาน 17 ท่า ส่วนกลุ่มกายบริหารมีการฝึกทั้งแบบ aerobic และแบบสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ (strength). ตัวชี้วัดผลหลัก คือคะแนนความสามารถในการทำงานของหลังเต็ม 24 คะแนน (roland disability scale) และคะแนนความปวด 0-11 คะแนน ถ้า roland disability scale เปลี่ยนแปลงมากกว่า 2.5 คะแนนหรือคะแนนความปวดลดลงมากกว่า 1.5 ถือว่าได้ผล. ส่วนตัวชี้วัดรองคือ จำนวนวันที่ทำงานไม่ได้ตามปกติภาวะสุขภาพทั่วไปและการใช้ยาแก้ปวด.
ผลการศึกษาภายหลัง 12 สัปดาห์ พบว่ากลุ่มทำโยคะได้ผลบรรเทาอาการปวดหลังดีที่สุดความสามารถในการทำงานของหลังดีกว่าอีก 2 กลุ่ม และ เมื่อผ่านไป 26 สัปดาห์กลุ่มโยคะลดอาการปวดได้ดีมากกว่ากลุ่มได้คู่มือ.
ผลสรุปคือ การฝึกโยคะมีประสิทธิผลในการลดอาการปวดหลังได้อย่างน้อยในระยะ 12 เดือน และยังมีผลต่อเนื่องไปอย่างน้อย 6 เดือน.
การฝึกโยคะเป็นการบริหารกายและจิตอาจมีส่วนทำให้ได้ผลดีกว่าการบริหารทางกายอย่างเดียว
วิชัย เอกพลากร พ.บ., Ph.D.,รองศาสตราจารย์, ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 6,632 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้