Avenell A, et al. Vitamin D and vitamin D analogues for preventing fractures associated with involutional and post-menopausal osteoporosis. Cochrane Database Sys Rev 2005;3:CD000227.
ในประชากรที่มีสัดส่วนผู้สูงอายุมากขึ้น ปัญหากระดูกหักจากภาวะกระดุกพรุนจะมีมากขึ้นจึงมีข้อแนะนำเกี่ยวกับการป้องกันด้วยการกินวิตามิน D หรือแคลเซียม แต่ประสิทธิผลในการป้องกันกระดูกหักด้วยวิตามิน D ตัวเดียวยังไม่แน่ชัด. การศึกษานี้ทบทวนฐานข้อมูล 10 ฐาน เลือกเฉพาะงานวิจัยแบบ randomized controlled trial ที่ศึกษาผลระหว่างการให้วิตามิน D (ทั้งแบบให้วิตามิน D ตัวเดียวและ ที่ให้ร่วมกับแคลเซียม) เปรียบเทียบกับยาหลอกหรือแคลเซียมอย่างเดียว ในผู้สูงอายุทั้งชายและหญิงอายุณ 65 ปี.
ผลการศึกษา มีงานวิจัยที่มีคุณภาพ 38 รายงาน พบว่าการให้วิตามิน D อย่างเดียวไม่มีประสิทธิผลในการป้องกันการหักของกระดูกเชิงกราน และกระดูกอื่นๆ (ที่ไม่ใช่กระดูกสันหลัง) ได้ดีไปกว่ายาหลอก แต่ว่าถ้าให้วิตามิน D ร่วมกับแคลเซียมสามารถป้องกันกระดูกเชิงกรานหักและกระดูกหักอื่นๆ ได้ดีกว่ายาหลอก (อัตรากระดูกเชิงกรานหักร้อยละ 3.9 vs. ร้อยละ 4.8 และกระดูกหักอื่นๆ ร้อยละ 10 vs. ร้อยละ 12 ตามลำดับ) แต่ว่าก็ไม่ได้ดีไปกว่าการให้แคลเซียมอย่างเดียว.
ข้อสรุปคือ ข้อมูลการวิจัยเท่าที่มีในขณะนี้การให้วิตามิน D เพียงตัวเดียวในผู้สูงอายุไม่ช่วยป้องกันภาวะกระดูกหัก แต่การให้วิตามิน D (700-800 IU/วัน) ร่วมกับแคลเซียมจึงจะช่วยลดความเสี่ยงได้โดยไม่แตกต่างจากการให้แคลเซียมอย่างเดียว.
วิชัย เอกพลากร พ.บ., Ph.D.,รองศาสตราจารย์, ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 1 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้