Deakin T, et al. Group based training for self-management strategies in people with type 2 diabetes mellitus. Cochrane Database Syst Rev 2005;(2):CD003417.
การศึกษานี้เป็นงานวิจัยชนิด meta-analysis เกี่ยวกับคำถามที่ว่าการให้ความรู้เรื่องการดูแลเบาหวานด้วยตนเองให้แก่ผู้ป่วยเบาหวานเป็นรายกลุ่มได้ผลดีหรือไม่. การศึกษานี้ใช้ฐานข้อมูลหลายแหล่ง เช่น Medline, CINAHL, ERIC, ASSIA, AMED EMBASE/Excerpta Medica เป็นต้น. ผู้วิจัยเลือกงานวิจัย RCT และการวิจัยเชิงสังเกต ที่เปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ได้รับการให้ความรู้เป็นรายกลุ่ม (Group based education, GBE) เทียบ กับกลุ่มควบคุมที่รับการดูแลตามปกติ ไม่มีการรวมกลุ่มเพื่อให้ความรู้.
ตัวชี้วัดผลคือ ระดับ HbA1C, ระดับน้ำตาลในเลือด ความรู้เกี่ยวกับการดูแลตนเอง, และประเมินภาวะจิตใจ ด้านความมั่นใจในความสามารถตนเอง (self efficacy).
จากการรวบรวมได้งานวิจัยที่เป็น RCT 8 งาน (n = 1,260 คน) และการศึกษาแบบสังเกต 3 งาน (n = 272 คน) จากการวิเคราะห์เปรียบเทียบ พบว่ากลุ่มที่ได้รับความรู้เป็นกลุ่มมีระดับ HbA1C, น้ำตาลในเลือดต่ำกว่ากลุ่มเปรียบเทียบอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การติดตามในเดือนที่ 24 กลุ่มได้รับความรู้มี HbA1C เฉลี่ย 6.54 ในขณะที่กลุ่มควบคุมมีค่า HbA1C 7.51. นอกจากนี้กลุ่มที่ได้รับความรู้มีระดับความรู้ดีกว่า สามารถลดการใช้ยาเบาหวานได้มากกว่า และมีภาวะจิตใจที่วัดด้วยคะแนนด้านการเสริมสร้างอำนาจให้ตนเอง (empowerment) ความมั่นใจ (self- efficacy) ดีกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญเช่นกัน.
สรุปการให้ความรู้ผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 ในการดูแลตนเองสามารถควบคุมเบาหวานได้ผลดี.
ข้อสังเกตคือการให้ความรู้แบบรายกลุ่มมีความแตกต่างระหว่างงานวิจัย แต่ประเด็นสำคัญคือแนวทางให้ความรู้ควรมีผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง,เนื้อหาเรียนรู้มีความสอดคล้องกับบริบทความเป็นอยู่และวัฒนธรรมของท้องถิ่น รวมทั้งรูปแบบการให้ความรู้ที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมจะทำให้การเรียนรู้ประสบความสำเร็จ.
วิชัย เอกพลากร พ.บ., Ph.D.,รองศาสตราจารย์, ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 2,199 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้