Skip to main content
ข้อมูลสุขภาพ มูลนิธิหมอชาวบ้าน
menu

Login Pop

  • เข้าสู่ระบบ
    • ลืมรหัสผ่าน
search
  • เว็บหลักหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ
หน้าแรก » บทความสุขภาพน่ารู้ » การทำพินัยกรรมก่อนตาย
  • ขนาดตัวอักษร  Normal size text | Increase text size by 10% | Increase text size by 20% | Increase text size by 30%

การทำพินัยกรรมก่อนตาย

โพสโดย somsak เมื่อ 1 กรกฎาคม 2549 00:00

ถาม  :    อยากทราบเรื่องการทำพินัยกรรมก่อนตาย ไว้สำหรับแพทย์ที่ทำการรักษาโดยตรง จะได้   ยึดถือปฏิบัติโดยไม่ผิดกฎหมาย. ผมบอกตรงๆ ว่าขณะนี้อายุมากแล้วผ่านโลกมามากพอที่จะเห็นการ  ตายของพรรคพวกเพื่อนฝูงจำนวนมากประเภทที่ไม่ยอมตายทั้งๆ ที่อยากตายเต็มที ได้แต่นอนมองตาปริบๆ พูดอะไรไม่ได้ บางคนก็เป็นเจ้าชายเจ้าหญิงนิทราไปเลยไม่รู้เรื่องอะไรทั้งสิ้น อยากตายเต็มที.แต่ลูกหลานชอบเอาพ่อแม่มาทรมานไปเรื่อยๆ ตายไปแล้วทั้งตัวยังเอาสายยางมายัดรูจมูกกรอกอาหารเหลวให้ทุกวัน เวลาเปลี่ยนสายยางเห็นเพื่อนร้องโอดโอยน้ำตาไหลพราก คงอยากจะให้แพทย์ถอดออกซิเจน ถอดสายอาหารมานานแล้วแต่พูดไม่ได้ บางคนไม่รู้สึกตัวใดๆ ทั้งสิ้น มีชีวิตอยู่ได้เพราะเครื่องคอยปั้มหัวใจให้เต้นเท่านั้น ลูกหลานก็ทรมานไปเป็นปีๆ นอนหลังเป็นแผลไปหมด แบบนี้ผมขยาดเต็มที จะให้ลูกหลานบอกแพทย์ให้งดกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ก็เท่ากับฆ่าพ่อตัวเองทำไม่ได้ฉะนั้นอยากจะให้เป็นความประสงค์ของผู้ป่วยดีกว่าอย่างอื่นทั้งหมด. 


ผมเชื่อว่ามีคนจำนวนมากอยากจะตายแต่ตายไม่ได้เพราะพูดไม่ได้ไม่รู้สึกตัวนอนตายซากอยู่เป็นปีๆ ผมกับเพื่อนจำนวนหนึ่งตกลงกันว่าจะม่ยอมให้ลูกหลานฆ่าพ่อแบบทรมานให้ตายช้าๆแบบนี้.จึงอยากจะให้คุณหมอช่วยออกแบบพินัยกรรมก่อนตายสำหรับแพทย์จะได้ถือปฏิบัติโดยไม่ต้องฟังคำของญาติ โดยให้มีรายละเอียดทางวิทยาศาสตร์ครบถ้วนว่า โคม่าขั้นไหนที่ควรยุติการใช้เครื่องวิทยาศาสตร์เข้าช่วยได้แล้วจะได้ช่วยให้ไปเกิดใหม่เป็นหนุ่มสาวใหม่ ไม่ต้องนอนผะงาบๆ เป็นผีตายซากอยู่เป็นปีๆ อีกต่อไป และลูกหลานก็จะถือว่าคณะกรรมการแพทย์ได้ตัดสินแล้ว ไม่ถือเป็นบาปกรรมอะไร มีความสุขด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย.

 

                                                                                                                                              สมาชิก

ตอบ  :  ตามตัวอย่างที่ถามมานั้น ไม่ควรเรียกว่า" พินัยกรรม " เพราะพินัยกรรมในความหมายของกฎหมาย หมายถึงคำสั่งที่จะมีผลเมื่อผู้ทำตายแล้วแต่ตามที่ถามต้องการให้คำสั่งนั้น มีผลก่อนที่ผู้ทำยังไม่ตาย แต่อยู่ในสภาวะที่สั่งเสียอะไรไม่ได้แล้ว ฝรั่ง  เรียกว่า Living Will ผมอยากจะแปลว่า หนังสือแสดงเจตนากำหนดการรักษาไว้ก่อนตาย ในต่างประเทศ  บางแห่งเขาใช้คำว่า Advanced directive อาจแปลว่าคำเสนอแนะล่วงหน้า.

เนื่องจาก technology ในการช่วยชีวิตในปัจจุบันที่ก้าวหน้ามาก ทำให้คนจำนวนมากตกอยู่ในสภาพ " ฟื้นก็ไม่ได้ ตายก็ไม่ลง ". ปัจจุบันนี้ประเทศไทยยังไม่มีกฎหมายรับรอง หนังสือแสดงเจตนากำหนด การรักษาไว้ก่อนตาย ถ้าเราจะทำไว้ถ้าลูกไม่สนใจหนังสือนั้นก็ไม่มีผลบังคับ วิธีที่ดีที่สุด ถ้าเรามีลูกหลายคนต้องประกาศให้ลูกทุกคนรับรู้ไว้ว่า ถ้าเห็นว่าสภาพของร่างกายเราไม่ไหวแล้ว อย่ายอมให้แพทย์เอาเข้าห้องไอซียูเป็นอันขาด หรือถ้าอยู่ในสภาพเป็นผักแล้วอย่าให้อาหารทางสายยางเลย.การบอกให้ลูกๆ ทุกคนรู้ ต้องพูดย้ำบ่อยๆ และต้องพูดขณะที่เรายังแข็งแรงดีมีพลังอำนาจพอที่ลูกจะเชื่อฟังเราอยู่ ถ้าเราอยู่ในสภาพนอนแซ่วตาปริบๆ แม้จะยังพูดได้ถึงตอนนั้นจะพูดขอร้องเขาอย่างไร เขาคงทำไม่ได้ยิน.

การจะเขียนคำสั่งเป็นหนังสือให้ละเอียดทุกขั้นตอนนั้นคงทำไม่ได้ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเมื่อไรเราจะอยู่ในสภาพอย่างไร ตัวอย่างเช่น คนที่ยังแข็งแรง  ไม่มีโรคประจำตัวอะไร ถ้าจะเขียนสั่งไว้ว่าถ้าเราเป็นลมหมดสติไม่รู้ตัว เพราะเหตุใดก็ตาม อย่าให้แพทย์ปั้มหัวใจหรือเจาะคอ เช่นนี้คงไม่มีใครยอมรับคำสั่งนั้น.แต่ถ้าเราเป็นมะเร็งและมะเร็งลุกลามไปมากแล้ว และเขียนคำสั่งไว้ว่า เมื่อหัวใจหยุดอย่าปั้มหัวใจให้ฟื้นกลับมาอีก ไม่อยากฟื้นกลับมาอยู่ในสภาพเป็นมะเร็งอีกคำสั่งเช่นนี้อาจมีผู้ยอมรับได้ แต่ถ้าจะเขียนให้ละเอียดลงไปว่าถ้าหมดสติอยู่ถึงขั้นนั้นขั้นนี้แล้วให้เลิกรักษาได้ คงจะเป็นเรื่องยาก. ดังนั้นถ้าจะเขียนไว้กว้างๆ ว่าขณะนี้เราอายุมากแล้ว (ไม่รู้ว่าคนถามอายุเท่าไร?) ผ่านโลกมามากแล้ว ถ้าเจ็บป่วยและเสียชีวิตก็ไม่ควรเหนี่ยวรั้งชีวิตไว้. ถ้าตกอยู่ในภาวะวิกฤติแพทย์เห็นว่าสิ้นหวังแล้ว ให้หยุดการช่วยชีวิตทุกชนิด รวม ทั้งการให้อาหารทางสายยางด้วย แต่ก็อาจมีปัญหาเพราะแพทย์ที่ดูแลเราอาจบอกว่ายังไม่หมดหวัง ขอให้รักษาไปเรื่อยๆ ก่อน อย่างนี้คำสั่งเราก็ไร้ผลอยู่ดี. เพราะฉะนั้นถ้าจะใช้วิธีของท่านพุทธทาสก็ได้ โดยสั่งว่า ไม่ว่าจะป่วยหนักขนาดไหนอย่าหามไปโรงพยาบาลใดๆ ทั้งสิ้น ขอตายอยู่ที่บ้านนี่แหละ ถ้าสั่งไว้อย่างนี้อาจได้ผลบ้าง. หรือถ้าจะกลัวว่าเราอาจจะนอนเป็นเจ้าชายนิทรา เราอาจจะสั่งไว้ว่าถ้าหมดสติไม่รู้ตัวเกิน 10 วัน ก็ให้ถอดสายยางให้อาหาร และถอดท่อหายใจออกได้ ก็ยังไม่แน่อีก แพทย์บางคนก็  อาจบอกว่าสภาพเช่นนั้นยังไม่หมดหวัง เพราะหมดสติอยู่ถึง 10 วัน ในบางโรคเราก็อาจมีโอกาสฟื้นได้. ดังนั้นขอสรุปว่าจะเขียนคำสั่งให้ครอบคลุมไปหมดทุกสถานการณ์ย่อมไม่อาจทำได้ ขึ้นอยู่กับว่าขณะนี้เราป่วยเป็นโรคอะไรอยู่ ถ้าเรารู้ว่าขณะนี้ป่วยเป็นโรคอะไร เราก็อาจจะสั่งไว้ว่าถ้าโรคเราดำเนินไปถึงขั้นไหนแล้ว จึงให้เลิกรักษาเสียทีก็อาจพอทำได้ แต่โดยทั่วไปเขาจะสั่งกันไว้หรือเขียนไว้กว้างๆ เท่านั้น ไม่อาจลง รายละเอียดลึกซึ้งลงไปว่าถึงจุดไหนให้เลิกรักษาได้.

 

วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์ พ.บ., ศาสตราจารย์เกียรติคุณ มหาวิทยาลัยมหิดล
สุรางค์ เจียมจรรยา พ.บ.ศาสตราจารย์, ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ,มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ป้ายคำ:
  • กรณีศึกษา
  • คุยสุขภาพ
  • ปัญหาวิชาการ
  • ศ.นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์
  • ศ.พญ.สุรางค์ เจียมจรรยา
  • อ่าน 3,920 ครั้ง
  • พิมพ์หน้านี้พิมพ์หน้านี้

ข้อมูลสื่อ

259-017
วารสารคลินิก 259
กรกฎาคม 2549
ปัญหาวิชาการ
ศ.นพ.วิฑูรย์ อึ้งประพันธ์, ศ.พญ.สุรางค์ เจียมจรรยา
Skip to Top

บทความสุขภาพน่ารู้

  • ทั้งหมด
  • การแพทย์ทางเลือก
    • แพทย์แผนไทย
      • กดจุด
      • นวดไทย
    • แพทย์แผนจีน
  • ดูแลสุขภาพ
    • การดูแลผู้สูงอายุ
    • การปฐมพยาบาล
    • การรักษาเบื้องต้น
    • การใช้ยาสมุนไพร
    • คู่มือดูแลสุขภาพ
    • ยาและวิธีใช้
    • ตรวจสุขภาพด้วยตัวเอง
      • คำนวณค่า BMI
      • วินิจฉัยโรคเบื้องต้น
      • แนะนำการตรวจสุขภาพประจำปี
    • คุยสุขภาพ
      • กรณีศึกษา
      • ถามตอบปัญหาสุขภาพ
  • สุขภาพทางเพศและครอบครัว
    • การดูแลบุตร
    • แม่และเด็ก
    • การตั้งครรภ์
    • เรียนรู้เรื่องเพศและการวางแผนครอบครัว
  • สร้างเสริมสุขภาพ 3 อ. ​และป้องกันโรค
    • อาหาร
      • อาหาร 5 หมู่
      • อาหารของผู้่ป่วยโรคเรื้อรัง
        • ความดันสูง
        • หัวใจ
        • เกาต์
        • เบาหวาน
      • อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง
      • อาหารป้องกันมะเร็ง
      • อาหารสมุนไพร
    • ออกกำลังกาย
      • วิ่ง เดิน ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ แอร์โรบิค แอร์โรบอคซิ่ง รำกระบอง ไทเก็ก ชี่กง โยคะ
    • อารมณ์
      • การทำสมาธิ
      • การพักผ่อน
      • การพัฒนา EQ
      • จิตอาสา/ ฉือจี้
  • พฤติกรรมอันตราย
    • พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ
    • อนามัยสิ่งแวดล้อม
    • อิริยาบถ
  • โรคและอาการ
    • โรคเรื้อรัง
      • กลุ่มอาการเมตาโบลิค
      • ความดันโลหิตสูง
      • ถุงลมปอดโป่งพอง
      • มะเร็ง
      • อัมพฤกษ์ อัมพาต
      • เบาหวาน
      • โรคข้อ/เกาต์
      • โรคทางจิตเวช เครียด หวาดระแวง
      • โรคหวัด ภูมิแพ้
      • โรคหัวใจ
      • โรคหืด
      • ไขมันในเลือดสูง/ผิดปกติ
      • ไตวาย
    • โรคตามระบบ
      • ระบบทางเดินอาหาร
      • โรคจากอุบัติเหตุ สารพิษ และสัตว์พิษ
      • โรคช่องปากและฟัน
      • โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
      • โรคติดเชื้อ
      • โรคผิวหนัง
      • โรคพยาธิ
      • โรคระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
      • โรคระบบต่อมไร้ท่อ
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศชาย
      • โรคระบบทางอวัยวะเพศหญิง
      • โรคระบบทางเดินปัสสาวะ
      • โรคระบบทางเดินหายใจ
      • โรคระบบประสาทและสมอง
      • โรคระบบไหลเวียนโลหิต
      • โรคหู ตา คอ จมูก
    • โรคจากการทำงาน
      • พิษภัยจากสารเคมี (ยาฆ่าเมลง/ สารตะกั่ว)
      • โรคจากฝุ่นและสารเคมีในโรงงาน
      • โรคจากสัตว์ เช่น ฉี่หนู
      • โรคจากอริยาบทที่ผิดสุขลักษณะ
      • โรคเส้นเอ็นอักเสบ/ นิ้วล็อค
  • ทันกระแสสุขภาพ
  • คลังความรู้สื่อสังคมออนไลน์
  • อื่น ๆ

ได้รับความนิยม

  • นม
  • ถั่วพู
  • คนท้อง
  • ธาลัสซีเมีย
  • ผู้สูงอายุ
  • ผักพื้นบ้าน
  • สมุนไพร

แผนผังเว็บไซต์

  • หน้าแรก
  • ดูแลสุขภาพด้วยตัวเอง
  • บทความสุขภาพน่ารู้
  • สื่อสุขภาพ
  • คำถามสุขภาพ
  • ข่าวสาร
  • ติดต่อหมอชาวบ้าน
  • ข้อปฏิเสธความรับผิดชอบ

รวมลิงค์เครือข่าย

  • มูลนิธิหมอชาวบ้าน
  • สำนักพิมพ์หมอชาวบ้าน
  • สถาบันโยคะวิชาการ

สื่อสุขภาพ

  • คลิปสุขภาพ
  • หมอชาวบ้านรายเดือน
  • คลินิกรายเดือน
  • จดหมายข่าวย้อนหลัง
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
  • feed หมอชาวบ้าน
  • facebook หมอชาวบ้าน
  • twitter หมอชาวบ้าน
  • youtube หมอชาวบ้าน
สนับสนุนโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)< และสถาบัน ChangeFusion< พัฒนาระบบโดย Opendream< สัญญาอนุญาต cc by-nc-sa <