ความสุข เป็นเรื่องที่คิดกันมานาน จึงมีแนวความคิดที่หลากหลาย บ้างเห็นว่าสุขภาพกับความสุขเป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะอย่างไร ความสุขนับเป็นสิ่งสุดยอดปรารถนาของคนทุกคน.
ในทางพุทธ ผู้รู้อย่างพระอาจารย์ครรชิต คุณวโร อธิบายว่า มีการจำแนกความสุขเป็น 6 ระดับจากหยาบไปหาละเอียด ได้แก่ ความสุขจาก
1. การเสพวัตถุ
2. การสัมผัสธรรมชาติ
3. การสร้างสรรค์ผลงาน
4. การให้ทาน
5. การทำสมาธิ
6. การเข้าถึงนิพพาน
ระดับความหยาบ ความละเอียดนั้น หมายถึง ความยากง่ายในการสัมผัสหรือวัดได้ ประเมินได้อย่างเป็นรูปธรรม ยิ่งเข้าสู่ระดับสูงขึ้นความเป็นรูปธรรมยิ่งลดลง ความสุขในระดับสูงจึงเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่ยากแก่การอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้ ทุกคนจึงต้องสัมผัสด้วยตนเอง.
เมื่อคิดตามในแนวทางการจัดระดับความสุขเช่นนั้นก็ไม่ยากนักที่จะเข้าใจได้ว่า มิน่าเล่าจำนวนคนที่เข้าถึงความสุขในระดับสูงจึงเป็นคนส่วนน้อยยิ่งมีคำว่า โสดาบัน อรหันต์ เข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งทให้คนส่วนมากรู้สึกว่า การเข้าถึงความสุขในระดับสูงเป็นเรื่องยากเย็นเข็ญใจ แม้ท่านพุทธทาสได้พยายามชี้ให้เห็นว่า ในชีวิตจริงทุกคนอาจเคยเข้าถึงนิพพานมาแล้ว โดยท่านใช้คำว่า " นิพพานชินลอง" แต่ดู เหมือนการสื่อสารเช่นนั้นก็ยังไม่ช่วยลดความรู้สึกท้อถอยต่อการเข้าถึงความสุขระดับสมาธิหรือนิพพาน ของคนหมู่มากอยู่ดี.
ในทางวิทยาศาสตร์ มีความเชื่อว่า สรรพสิ่งที่ วัดไม่ได้ ย่อมไม่สามารถพัฒนาได้ วิทยาศาสตร์จึงเกี่ยวข้องกับเฉพาะสิ่งที่วัดได้เท่านั้น กระแสความเชื่อเช่นนี้ ย่อมง่ายต่อการเข้าถึงและนำไปปฏิบัติมากกว่าความเชื่อในลักษณะแรกที่กล่าวถึงข้างต้น.
แม้วิทยาศาสตร์ไม่สามารถให้คำตอบกับทุกสิ่ง แต่ความจริงที่ประจักษ์ชัดคือ วิทยาศาสตร์คือกระแสหลักในการขับเคลื่อนสังคมมนุษย์ให้เจริญก้าวหน้าอย่างที่เห็นกันอยู่ ในขณะเดียวกันการนำวิทยาศาสตร์ไปใช้ก็ได้ก่อผลข้างเคียงอย่างที่เห็นกัน ผลข้างเคียงที่สำคัญมากประการหนึ่งคือ การทำให้ผู้คนยึดติดกับผลตอบแทนที่วัดได้นั่นเอง.
สภาวะการยึดติดอย่างเหนียวแน่นเช่นนั้น เปรียบได้ดั่งปราการอันแข็งแกร่งในจิตใจของผู้คนที่ยากแก่การทะลุทะลวงโดยวิธีการถ่ายทอด "ธรรมะ" หรือ " ศาสนา" อย่างที่ปฏิบัติกันทั่วไป.
ถ้าเอาความสุขของคนส่วนใหญ่เป็นที่ตั้ง คงจะ มีคำถามว่า คำชี้ชวนหรือเรียกร้องให้มนุษย์ทุกคน เข้าถึง " นิพพาน" จึงน่าจะเป็นวิธีคิดที่สุดโต่งใช่หรือไม่.
ทำไม การเรียกร้องให้ " ขจัดความยากจน" จึงเป็นคาถาที่ได้รับความนิยมมากกว่าอย่างเทียบกันไม่ได้เลย ทำนองเดียวกัน คำว่า " เสรีภาพที่จะได้กำหนดชะตากรรมของตนเอง""การต่อสู้กับความอยุติธรรม" เป็นต้น ก็ขายได้ง่ายกว่า คำว่า " นิพพาน" เป็นไหนๆ.
คำที่มีพลังของการสื่อสารมากกว่า ไม่เพียงได้รับความนิยมหรือขายง่าย แต่ที่สำคัญคือ ใช้ระดมทรัพยากรเพื่อสร้างสรรสังคมให้บรรลุภาวะตามที่คำนั้นๆ ชี้นำได้ง่ายกว่าด้วย จึงไม่แปลกที่มูลนิธิของมหาเศรษฐีบิลเกตซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก ธนาคารโลก กลุ่มประเทศ จี 9 จึงสนใจและดำเนินการแก้ปัญหาความยากจนให้หมดไปจากโลก. บนเส้นทางนั้น สุขภาพมีที่ยืนอย่างโดดเด่นในฐานะที่เป็นทั้งวิถีทางและปลายทางของการแก้ปัญหาเพราะเป็นที่ยอมรับกันว่า สุขภาพ คือ พื้นฐานแห่งความสุข ความเจริญทั้งปวง.
(ศาสตราจารย์ นายแพทย์ไพบูลย์ สุริยะวงศ์ไพศาล)
- อ่าน 2,614 ครั้ง
- พิมพ์หน้านี้