Arroll B, Kenealy T. Are antibiotics effective for acute pururent rhinitis? Systematic review and meta-analysis of placebo controlled randomised trials. BMJ 21 July 2006.
ผู้ป่วยหวัดเฉียบพลันที่มีน้ำมูกเหลือง (acute purulent rhinitis) มักถูกตัดสินว่า น่าจะมีการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงได้รับการรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะ แม้ว่าจะมีข้อแนะนำทางเวชปฏิบัติว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้ในผู้ป่วยที่เป็นเฉียบพลัน เพราะพบว่าไม่ได้ช่วยให้ระยะเวลาของโรคนั้นลดลง แต่ก็ยังมีการใช้ยาดังกล่าวอย่างแพร่หลาย. ผลเสียของการใช้ยาปฏิชีวนะเกินจำเป็นเป็นที่ทราบว่า อาจมีผลข้างเคียงของยา และเชื้อดื้อยาเพิ่มขึ้น การศึกษานี้จึงทบทวนงานวิจัยจากฐานข้อมูลทางการแพทย์ต่างๆ แบบ meta-analysis ของงานวิจัยที่ทำแบบ randomized control trial ที่ผ่านมา.
ผลการทบทวน พบว่า มีรายงานวิจัย 7 รายงานที่มีคุณภาพดีพอ ในจำนวนนี้มี 4 งานที่บอกว่ายาปฏิชีวนะมีประโยชน์ คือ ดีกว่าไม่ให้ยา 1.18 เท่า และอีก 4 รายงานบอกว่ามีโทษ มีอาการข้างเคียงมากกว่า 1.46 เท่า. ยาปฏิชีวนะที่ใช้ในงานวิจัยเหล่านี้ได้แก่ tetracycline, amoxicillin, cotrimoxazole.
ผู้วิจัยสรุปว่าแม้ยาปฏิชีวนะน่าจะมีประโยชน์ในการรักษาโรคหวัดเฉียบพลันที่มีน้ำมูกเหลือง แต่ก็ มีผลเสีย (ส่วนมากเป็นอาการปวดท้อง อุจจาระร่วง) ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการดีขึ้นเองได้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลเพียงพอที่ใช้ยาปฏิชีวนะแต่เริ่มแรก (no antibiotic at first line).
โรคหวัดในงานวิจัยนี้หมายถึงหวัดในระยะเฉียบ พลัน แม้ว่าผู้ป่วยมีน้ำมูกเหลืองก็ยังไม่จำเป็นต้องให้ ยาปฏิชีวนะทันที (แต่ต้องแยกจากภาวะ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง) ควรรักษาแบบประคับประคองไปก่อน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นจึงค่อยพิจารณาให้ยาปฏิชีวนะจะปลอดภัยต่อผู้ป่วยมากกว่า.
วิชัย เอกพลากร พ.บ., Ph.D.,รองศาสตราจารย์ ศูนย์เวชศาสตร์ชุมชน, คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล
รามาธิบดี, มหาวิทยาลัยมหิดล
- อ่าน 3,322 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้