เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับแกนนำชมรมจิตอาสา โรงพยาบาลเทพา จังหวัดสงขลา ชมรมนี้ก่อตั้งมาได้ 2 ปีกว่าหลังจากนายแพทย์สุวัฒน์ วิริยพงษ์สุกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเทพากลับจากดูงานมูลนิธิฉือจี้ ไต้หวัน ได้นำเรื่องราวที่นั่นมาเผยแพร่ และส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่หันมาทำงานจิตอาสา. สมาชิกประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ทุกส่วนงานที่สมัครใจเข้าร่วม เช่น เจ้าหน้าที่ห้องบัตร ห้องครัว คนงาน หมอนวดไทย พยาบาล แพทย์ เป็นต้น.
ชมรมจิตอาสามีกิจกรรมหลากหลาย เช่น เก็บขยะริมชายหาดร่วมกับหน่วยราชการอื่นและประชาชน ปลูกป่า เข้าค่ายปฏิบัติธรรม พัฒนาห้องสมุดโรงเรียน พัฒนาวัด และมัสยิด.
แกนนำหลายท่านได้เล่าถึงกิจกรรมอาสาเยี่ยมบ้านผู้ป่วย เพื่อให้กำลังใจและดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัว โดยเลือกเยี่ยมบ้านที่อยู่ในละแวกชุมชนที่เจ้าหน้าที่อาศัยอยู่. เจ้าหน้าที่ห้องบัตรสาวอายุ 20 กว่าเล่าว่า ได้เยี่ยมบ้านคุณปู่อายุกว่า 100 ปีที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะท้าย ได้แวะไปบ้านผู้ป่วยนำอาหารไปให้ตอนเช้าก่อนมาทำงาน และตอนเย็นหลังเลิกงานทุกวัน เป็นเวลา 6 เดือน จนกระทั่งผู้ป่วยเสียชีวิต. เจ้าหน้าที่รายนี้มีความสนิทชิดเชื้อกับครอบครัวของผู้ป่วยประดุจญาติใกล้ชิดคนหนึ่ง และรู้สึกมีความสุขที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์.
เจ้าหน้าที่อีกราย (ที่ไม่ได้ทำงานให้บริการผู้ป่วยโดยตรง) ก็เล่าประสบการณ์ในการ เยี่ยมบ้านและดูแลผู้ป่วยมะเร็งอีกรายนานถึง 1 ปี จนกลายเป็นเหมือนลูกหลานคนหนึ่งของผู้ป่วย. ก่อนเสียชีวิต ผู้ป่วยได้กุมมือเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงการขอบคุณและอำลา.
การเกิดขึ้นของชมรมจิตอาสาภายในโรงพยาบาลแห่งนี้ ได้เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ต่างแผนกได้อาสาเข้ามาทำงานร่วมกันด้วยอุดมการณ์ มิใช่ทำงานในหน้าที่ปกติ ซึ่งเป็นความสัมพันธ์แบบแนวราบ (ผูกพันด้วยใจ) ไม่ใช่แบบแนวดิ่ง (แบบอำนาจสั่งการ) จึงมีความผูกพันกลมเกลียว เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน และช่วยกันส่งเสริมการพัฒนาสุขภาวะทางจิตวิญญาณ.
นอกจากนี้ ชมรมจิตอาสายังได้เปิดกว้าง ให้ชาวบ้านเข้ามาทำงานจิตอาสาในโรงพยาบาล. กิจกรรมหนึ่งที่ทางโรงพยาบาลเทพารู้สึกภูมิใจก็คือ หลังจากประกาศเปิดรับคนทั่วไปมาทำงานจิตอาสา ก็มีคุณตาอายุ 85 ปีขอมาเล่นไวโอลินที่แผนกผู้ป่วยนอกทุกเช้าวันพุธ ต่อมาก็มีคุณลุงอีกท่านที่เก่งดนตรีไทยมาร่วมเป่าขลุ่ยด้วย และต่อมาก็มีอาสาสมัครนักร้องอีก 2 ท่านมาร่วมวง กลายเป็นวงดนตรีเล็กๆ วงหนึ่ง เล่นให้ผู้ที่มารับบริการและเจ้าหน้าที่ฟังเป็นประจำทุกวันพุธ.
ในระยะ 2-3 ปีมานี้ งานจิตอาสาได้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ.
ที่โรงพยาบาลหนองแค จังหวัดสระบุรี ได้ จัดทำโครงการจิตอาสาโดยเชิญชวนประชาชนทั่วไปมาทำงานอาสาสมัครช่วยเหลืองานของโรงพยาบาล. ที่โดดเด่น ก็คือ มีอาสาสมัครวัย 86 ปี ชื่ออาจารย์สมศักดิ์ อยู่พร้อม อดีตข้าราชการครู ทุกเช้าจะขี่รถจักรยานจากบ้านเป็นระยะทาง 7 กิโลเมตรมาประจำอยู่ที่แผนกผู้ป่วยนอก นำ ผู้มารับบริการที่นั่งรอตรวจและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสวดมนต์พร้อมกันก่อนให้การบริการตรวจผู้ป่วย ช่วยให้ผู้คนมีจิตใจสงบ ลดความวุ่นวายโกลาหล และความขัดแย้งต่างๆ ได้เป็นอย่างมาก. หลังจากสวดมนต์เสร็จคุณปู่ก็ช่วยเหลือประสานงานทั่วไป ต้อนรับและแนะนำผู้ป่วยในการเข้ารับบริการ.
ต่อมามีผู้รับบริการรายหนึ่ง ชื่อคุณทองหล่อ อภินันท์รัตนกุล วัย 58 ปี ซึ่งเป็นเถ้าแก่โรงสี ได้เห็นแบบอย่างการทำงานจิตอาสาของอาจารย์ สมศักดิ์ ก็รู้สึกประทับใจและเกิดแรงบันดาลใจขอเข้าร่วมกิจกรรมนี้ด้วย โดยตอนเช้า (ซึ่งแต่เดิมอยู่ว่างๆ ได้แต่นั่งดูโทรทัศน์ กินขนม) จะขับรถมาที่โรงพยาบาลเพื่อช่วยเหลืองานที่ห้องตรวจผู้ป่วยนอกคู่กับอาจารย์สมศักดิ์จนถึงเที่ยง ค่อยกลับไปทำงานที่โรงสีในช่วงบ่าย.
นอกจากได้รับความสุขความภูมิใจในงานจิตอาสาที่ทำแล้ว คุณทองหล่อยังสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 7 กิโลกรัมในระยะ 6 เดือนที่มาทำงานจิตอาสา เนื่องจากมีการออกแรงเคลื่อนไหว เดินไปมาตลอด 4 ชั่วโมงที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลแทนการนั่งๆ นอนๆ ดูโทรทัศน์และกินขนมอยู่ที่บ้าน พลอยทำให้สามารถควบคุมความดันและไขมันในเลือดสูงได้ดีขึ้น. นอกจากนี้ ยัง ส่งผลให้คุณทองหล่ออยู่ร่วมกับภรรยาและบุตร ได้อย่างมีความสุขขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้เป็นเพราะมีความเข้าใจผู้อื่นและรู้จักอดกลั้นมากขึ้น เนื่องจากได้เห็นความทุกข์ยากลำบากของผู้ป่วยและต้องเข้าไปช่วยเหลือด้วยความเห็นอกเห็นใจ ช่วยให้ลดความเป็นตัวตนของตัวเองลงไป จึงกลายเป็นคนใจเย็น เข้าใจครอบครัว และไม่ใช้อารมณ์กับคนใกล้ชิดในครอบครัวอย่างที่เคย.
นอกจากนี้โรงพยาบาลบางแห่งก็ได้นำผู้ป่วยโรคจิตและผู้พิการที่สามารถดูแลรักษาจนสามารถช่วยตัวเองได้มาทำงานจิตอาสาในโรงพยาบาล ฟื้นคืนศักดิ์ศรีและคุณค่าของความเป็นมนุษย์ สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมี ความสุขได้.
งานจิตอาสา จึงเป็นเวทีสร้างสุขของผู้อาสา ทั้งที่เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ผู้ป่วย และประชาชนทั่วไป.
(รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สุรเกียรติ อาชานานุภาพ)
- อ่าน 4,259 ครั้ง
พิมพ์หน้านี้